Nattapat

18 มกราคม 2025

รู้จัก วิทยากร นักพูดบรรยายเพื่อฝึกอบรมองค์กร

การพัฒนาบุคลากรเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอยู่เสมอ ยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีออนไลน์และนวัตกรรมนั้นเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแสวงหาความรู้และทักษะใหม่ๆ ย่อมเป็นสิ่งจำเป็นในการอยู่รอด ดังนั้น “วิทยากร” จึงกลายเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เหล่านั้นให้กับบุคลากรในบริษัทของคุณ

ในวันนี้ Sixtygram Agency จะขอพาคุณไปทำความรู้จักกับอาชีพวิทยากรให้มากขึ้น ทั้งบทบาทหน้าที่ ความสำคัญ ประโยชน์และประเภทของวิทยากร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้แนวทางในการเลือกเชิญวิทยากรที่เหมาะสมกับองค์กรของคุณสามารถทำได้ง่ายขึ้นกัน

วิทยากร คืออะไร?

วิทยากรพูดบรรยาย

วิทยากร (Trainer) หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ โค้ช (Coach) คือผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในด้านต่างๆ ให้กับงานสัมนาและการบรรยายเชิงให้ความรู้ โดยวิทยากรจะใช้การพูดที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของงานกิจกรรม โดยวิทยากรมืออาชีพต้องมีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านเนื้อหาที่สอนและเทคนิคการถ่ายทอดความรู้เฉพาะทาง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานหรือการพัฒนาต่อยอดได้จริง

ในปัจจุบัน เราสามารถพบเห็นวิทยากรที่ปฏิบัติงานจริงได้ในหลายรูปแบบ อย่างเช่น วิทยากรประจำที่ทำงานให้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งมักพบในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการฝึกอบรมพนักงานอย่างสม่ำเสมอ หรือวิทยากรจากบริษัทที่ปรึกษาที่ให้บริการฝึกอบรมกับหลากหลายบริษัท รวมถึงวิทยากรอิสระที่รับงานบรรยายและฝึกอบรมด้วยตนเอง

461779409 122195475920188511 7050716063401573242 n
วิทยากรผู้กำกับบรรยายในงาม Production Skill Seminar มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา(SSRU)

นอกจากในภาคธุรกิจแล้ว เรายังพบวิทยากรในสถาบันการศึกษาอีกด้วย เช่น วิทยากรที่พูดให้ความรู้เรื่องการกำกับภาพยนต์ให้กับมหาวิทยาลัย วิทยากรจากภาคอุตสาหกรรมที่มหาวิทยาลัยเชิญมาแชร์ประสบการณ์การทำงานจริง หรือ วิทยากรจากหน่วยงานรัฐที่มาให้ความรู้เรื่องการป้องกันภัยพิบัติในชุมชน รวมไปถึงวิทยากรด้านการตลาด และวิทยากรที่เชี่ยวชาญเรื่อง IT เฉพาะทางเป็นต้น 

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นวิทยากรในรูปแบบใด สิ่งสำคัญคือความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดเก่ง เห็นภาพรวม รู้ลึก รู้จริง เข้าใจง่าย และมีความรู้เฉพาะทางที่ตรงกับความต้องการของผู้เข้าอบรม เพื่อให้การพัฒนาความรู้และทักษะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เป็นสำคัญ

ความสำคัญและประโยชน์ของวิทยากร

พนักงานฟังวิทยากร.jpeg

วิทยากรมีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์กรในหลายด้าน ได้แก่

1. ประโยชน์ด้านการพัฒนาบุคลากร

วิทยากรช่วยพัฒนาความรู้และทักษะของพนักงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางการแข่งขัน ทั้งด้านเทคโนโลยี ด้านการตลาด กระบวนการและขั้นตอนการทำงาน ไปจนถึงการสร้างกรอบแนวคิดใหม่ๆ ในการบริหารจัดการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับทั้งองค์กร

2. ประโยชน์ด้านการเพิ่มผลผลิต

การฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพจากวิทยากรมืออาชีพ มักจะช่วยให้พนักงานเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานได้ดีขึ้น โดยทั่วไป วิทยากรจะมีสูตรสำเร็จ หรือ ระบบการทำงานที่จัดเตรียมมามอบให้แก่บริษัทที่อบรม เพื่อลดความผิดพลาดในการทำงานของพนักงาน และเพิ่มผลผลิตให้กับองค์กร ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผลประกอบการของบริษัท

3. ประโยชน์ด้านการสร้างแรงจูงใจ

วิทยากรนั้นไม่เพียงแต่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้พนักงานเกิดความกระตือรือร้นในการพัฒนาตนเอง ยิ่งหากเป็นวิทยากรชื่อดังหรือวิทยากรที่ประสบความสำเร็จในภาคธุรกิจนั้นๆมาบรรยาย มักจะช่วยสร้างบรรยากาศการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของพนักงานในองค์กร

4. ประโยชน์ด้านการปรับตัวขององค์กร

ในยุคที่เทคโนโลยีและรูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วิทยากรมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้องค์กรและพนักงานปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงแวดล้อม เช่น การจัดระบบให้รองรับกับทำงานที่บ้านของพนักงาน(WFH) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้รวดเร็วกว่าเดิมจากความรู้ภายในหลักสูตรอบรมนั้น ๆ

5. ประโยชน์ด้านการรักษาบุคลากร

การพัฒนาทักษะและความก้าวหน้าในอาชีพผ่านการฝึกอบรมจากวิทยากรที่มีคุณภาพ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาพนักงานที่มีความสามารถให้อยู่กับองค์กร เนื่องจากพนักงานรู้สึกว่าได้รับการพัฒนาและมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานทำให้ลดปัญหาพนักงานลาออก เบิร์นเอาท์ซินโดรม และหรือ การแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตในที่ทำงาน

6. ประโยชน์ด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร

วิทยากรมีส่วนสำคัญในการปลูกฝังค่านิยม แนวคิด วัฒนธรรมองค์กร(Organizational culture) และวัฒนธรรมการทำงานที่ดีให้กับพนักงาน ซึ่งจะช่วยสร้างความเป็นหนึ่งเดียวและความแข็งแกร่งให้กับองค์กรทั้งทางตรงและทางอ้อม

ด้วยบทบาทหน้าที่อันสำคัญของวิทยากรเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ความต้องการวิทยากรมืออาชีพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่หลายบริษัทกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น การหาวิทยากรที่มีความสามารถเพื่อพนักงานภายในองค์กรจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้พนักงานประสบความสำเร็จและเติบโตในบริษัทได้อย่างยั่งยืน

ประเภทของวิทยากร

สำหรับวิทยากรในไทย สามารถแบ่งออกเป็นหลากหลายประเภทตามสาขาความเชี่ยวชาญและความถนัดเฉพาะตัว แต่เพื่อให้การทำความเข้าใจและเลือกจ้างวิทยากรนั้นทำได้ง่ายขึ้น เราจึงได้สรุปประเภทของวิทยากรออกมาเป็น 10 ประเภทหลัก ดังนี้

1. วิทยากรด้านเทคโนโลยี (Technology)

web development solutions.jpg

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว วิทยากรประเภทนี้จึงเป็นที่ต้องการสูงสุดในตลาด พวกเขาเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลต่างๆ ตั้งแต่การใช้งานซอฟต์แวร์พื้นฐานไปจนถึงเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI, Cloud Computing หรือ Data Analytics วิทยากรกลุ่มนี้มักมีหลักสูตรที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่การใช้งาน Microsoft 365 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Power BI การใช้งาน Cloud Platform การพัฒนา Digital Workflow และที่สำคัญคือการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

องค์กรที่กำลังปรับตัวสู่ Digital Transformation มักเลือกใช้วิทยากรประเภทนี้เพื่อพัฒนาทักษะของพนักงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะบริษัทที่ต้องการยกระดับการทำงานด้วยเทคโนโลยี หรือธุรกิจที่มุ่งสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งนี้ อัตราค่าตอบแทนของวิทยากรกลุ่มนี้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวิทยากรประเภทอื่น เนื่องจากความต้องการในตลาดที่สูงและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ต้องมีการอัพเดตความรู้อยู่เสมอ

2. วิทยากรการตลาดออนไลน์และการขาย (Digital Marketing & Sales)

sale training

พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปสู่โลกออนไลน์มากขึ้น วิทยากรด้านการขายและการตลาดจึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก พวกเขาจะช่วยพัฒนาทักษะการขายรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานระหว่างการขายแบบดั้งเดิมและการใช้เครื่องมือดิจิทัล ทั้งการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ การทำ E-commerce และการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล

วิทยากรกลุ่มนี้ มักเป็นนักการตลาดที่ประจำอยู่ในเอเจนซี่การตลาด ที่ใช้การนำเสนอกรณีศึกษา(แคมเปญการตลาดจริง)และเทคนิคงานโฆษณาที่ทันสมัย เช่น การทำ Content Marketing การใช้ Data Analytics เพื่อวางแผนการตลาด และการสร้าง Customer Journey ในยุคดิจิทัล  โดย วิทยากรด้านการขายและการตลาดเหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขายหรือขยายฐานลูกค้าออนไลน์ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบริการ หรือแบรนด์ที่ต้องการสร้างการรับรู้ในตลาดดิจิทัล การลงทุนกับวิทยากรประเภทนี้มักเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและวัดผลได้ผ่านตัวชี้วัดทางการตลาดและยอดขายที่เพิ่มขึ้น

3. วิทยากรด้านภาวะผู้นำและการบริหารทีม (Leadership)

Leadership

การทำงานในยุคไฮบริดที่พนักงานกระจายตัวทำงานที่ไหนก็ได้(Work from Anywhere) สร้างความท้าทายใหม่ให้กับผู้นำองค์กร วิทยากรด้านนี้จึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะการบริหารทีมรูปแบบใหม่ พวกเขาจะถ่ายทอดเทคนิคการสร้างแรงจูงใจ การสื่อสารในทีมที่กระจายตัว และการบริหารผลงานผ่านเครื่องมือดิจิทัล นอกจากนี้ ยังรวมถึงการสอนทักษะการแก้ไขความขัดแย้ง การสร้างวัฒนธรรมองค์กรในยุคไฮบริด และการรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพการทำงานกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

4. วิทยากรการสื่อสารเชิงบวกและทักษะทั่วไป (Communication & Soft Skills)

Soft skill development office presentation

ท่ามกลางความก้าวหน้าของ AI และระบบอัตโนมัติ กลับพบว่าทักษะความเป็นมนุษย์มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ วิทยากรที่เชี่ยวชาญด้าน Soft Skills จึงเป็นที่ต้องการสูง โดยเฉพาะในการพัฒนาทักษะที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้ อย่างการสื่อสารเชิงลึก การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน การทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ และการจัดการกับความเครียด หลักสูตรเหล่านี้มักใช้กิจกรรม Workshop และ Role-play เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกปฏิบัติจริง

5. วิทยากรด้านความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

Creativity

ความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมคือกุญแจสำคัญของการอยู่รอดในโลกธุรกิจปัจจุบัน วิทยากรกลุ่มนี้จะช่วยกระตุ้นให้พนักงานคิดนอกกรอบ เรียนรู้กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) และการสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยใช้เครื่องมือและเทคนิคที่หลากหลาย เช่น Design Sprint, Agile Methodology และ Innovation Workshop ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่ต้องการสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขัน

6. วิทยากรด้านบริหารความเปลี่ยนแปลง (Change Management)

Change Management

หนึ่งในทักษะที่จำเป็นที่สุดในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็ว คือความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง วิทยากรกลุ่มนี้จะช่วยให้องค์กรและพนักงานเข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลง การจัดการความกลัวและความกังวล รวมถึงการมองเห็นโอกาสในวิกฤต พวกเขามักใช้กรณีศึกษาจากองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลง พร้อมเครื่องมือและเทคนิคในการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ได้ผลจริง

7. วิทยากรด้านจริยธรรมองค์กรและกฎระเบียบ (Compliance)

Compliance

การปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรมทางธุรกิจเป็นเรื่องที่องค์กรต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ วิทยากรในด้านนี้จะช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ๆ เช่น PDPA, การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และจรรยาบรรณทางธุรกิจ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง โดยใช้กรณีศึกษาและสถานการณ์จำลองที่พบได้จริงในการทำงาน

8. วิทยากรด้านสุขภาวะ (Wellness)

office workout

ในยุคที่ burnout กลายเป็นปัญหาใหญ่ในองค์กร วิทยากรด้านนี้จึงมีความสำคัญมากขึ้น พวกเขาจะสอนเทคนิคการจัดการความเครียด การสร้างสมดุลชีวิตการทำงาน และการดูแลสุขภาพกายใจ รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ใส่ใจสุขภาพพนักงาน โดยผสมผสานทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติ เช่น การทำสมาธิ การจัดการเวลา และการออกกำลังกายในที่ทำงาน เป็นต้น

9. วิทยากรด้านการปฐมนิเทศและพนักงานใหม่ (Orientation Onboarding)

Onboarding vs Orientation.jpg

วิทยากรประเภทนี้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการต้อนรับพนักงานใหม่เข้าสู่องค์กร โดยเนื้อหามักครอบคลุมถึงการแนะนำองค์กร วัฒนธรรมองค์กร ค่านิยม และข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการปรับตัวในสภาพแวดล้อมการทำงาน วิทยากรเหล่านี้ช่วยสร้างความประทับใจแรกเริ่มและช่วยให้พนักงานใหม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างชัดเจน องค์กรที่มีระบบการปฐมนิเทศที่ดีมักพบว่าพนักงานใหม่มีความผูกพันและพร้อมที่จะพัฒนาตนเองให้เข้ากับองค์กรได้รวดเร็วขึ้น

10. วิทยากรด้านการสร้างทีมและความสัมพันธ์ในองค์กร (Team Building)

Team Building

วิทยากรในกลุ่มนี้เน้นการพัฒนาความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกในทีม โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานข้ามสายงานและการประสานงานระหว่างทีมมีความสำคัญมากขึ้น การฝึกอบรมอาจครอบคลุมกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มความไว้วางใจ ความเข้าใจซึ่งกันและกัน และการแก้ไขปัญหาร่วมกัน วิทยากรประเภทนี้เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการเสริมสร้างความสามัคคีและประสิทธิภาพของทีม

TAG ที่เกี่ยวข้อง: