ในแวดวงการตลาดออนไลน์ทั่วโลกในปัจจุบัน เรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายและกำลังมาแรงที่สุดคงหนีไม่พ้นการใช้ระบบ Automation ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยจัดการงานแทนผู้ใช้อย่างอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการมีเลขา AI ส่วนตัว การส่งอีเมลแจ้งเตือน การจัดการนัดหมาย การทำงานของแชทบอท หรือแม้แต่งานกรอกข้อมูลซ้ำซากอันน่าเบื่อ ทำให้สามารถลดภาระงานของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในวันนี้ Sixtygram อยากพาคุณมาทำความรู้จักกับ n8n เครื่องมือ Automation Workflow ยอดนิยมที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานอัตโนมัติเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น
n8n คืออะไร
n8n(Nodemation) คือเครื่องมือสำหรับการจัดการงานอัตโนมัติ(Workflow Automation) ที่ช่วยให้คุณสร้างเวิร์กโฟลว์ที่เหมาะกับความต้องการได้ด้วยตนเอง n8n จะเป็นเสมือนผู้ช่วยดิจิทัลที่จัดการงานซ้ำเดิมให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาทำงาน การใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อของ n8n เพื่อรวมระบบที่แตกต่างกัน หรือการย้ายข้อมูลอัตโนมัติระหว่างแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ปกติแล้วไม่สามารถสื่อสารกันได้
แม้ปกติแล้วการตั้งค่าการทำงานอัตโนมัติจำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม แต่ n8n ช่วยให้การทำงานนั้นง่ายขึ้น ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานได้แบบภาพ (Visual Interface) และเทมเพลตสำหรับเวิร์กโฟลว์ทั่วไป ที่ทำให้คุณสามารถประหยัดเวลาและมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยไม่ต้องพัฒนาเครื่องมืออัตโนมัติใหม่เอง
n8n นี้ถูกออกแบบเพื่อให้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการเขียนโปรแกรมก็สามารถออกแบบเวิร์กโฟลว์ที่สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ เช่น ระบบ Generative AI ทำให้การจัดการงานในองค์กรหรือการใช้งานส่วนตัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
หลักการทำงานของ n8n
โดยทั่วไปแล้วการทำให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ เชื่อมต่อเข้าด้วยกันเป็นเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ ซึ่งใน n8n ส่วนประกอบของจิ๊กซอว์เหล่านี้เรียกว่า “โหนด” (Nodes) โดยแต่ละโหนดจะแทนการทำงานเฉพาะทาง เช่น การส่งอีเมล อัปเดตสเปรดชีต หรือดึงข้อมูลจากการเชื่อมต่อ API(Application Programming Interface) จากผู้ให้บริการรายอื่น ซึ่งเมื่อเรานำโหนดต่าง ๆ มาต่อกัน จะเกิดเป็นเวิร์กโฟลว์ (Workflow) หรือกลุ่มของการทำงานที่สามารถเริ่มต้นการทำงานเป็นระบบวงจร(Automation Loop)
วิธีใช้งาน n8n
วิธีการเริ่มต้นใช้งาน n8n นั้นไม่ซับซ้อน เริ่มจากการสมัครใช้งาน n8n Cloud ซึ่งมีช่วงทดลองฟรี 14 วันสำหรับผู้ใช้ใหม่ สามารถทำได้ที่ n8n Cloud
หลังจากนั้นเปิดใช้งานเวิร์กโฟลว์สำเร็จรูปจากเทมเพลตที่มาพร้อมโหนดเทรนนิ่ง ซึ่งทำให้คุณสามารถทดลองใช้กับข้อมูลตัวอย่างได้ การโหลดเวิร์กโฟลว์จากเทมเพลตจะทำให้คุณได้รับข้อมูลตัวอย่างจาก Customer Datastore และใช้โหนด Edit Fields เพื่อฝึกฝนการตั้งค่าและกำหนดค่าตัวแปร เช่น ชื่อลูกค้า, ID และคำอธิบาย ระหว่างขั้นตอนนี้ คุณสามารถเพิ่มและตั้งค่าโหนดได้ผ่านอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่เข้าใจง่ายของ n8n เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ คุณสามารถทดสอบการทำงานของเวิร์กโฟลว์และดูผลลัพธ์เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ สุดท้ายนี้ เราหวังว่าคุณจะได้ทดลอง, เรียนรู้, และศึกษาการใช้งาน n8n เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนและใช้ฟีเจอร์ที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต
สิ่งที่ทำให้ n8n ได้รับความนิยม
เนื่องจาก n8n เป็นแพลตฟอร์มอัตโนมัติ(Workflow Automation) ที่ไม่ต้องเขียนโค้ด (No-code Workflow Automation Platform) การกำหนดค่าโหนดจึงทำผ่านอินเทอร์เฟซแบบภาพ ทำให้การสร้างเวิร์กโฟลว์เป็นเรื่องง่ายโดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลยก็ย่อมได้ เนื่องจากโหนดของ n8n แต่ละชิ้นนั้นเปรียบเสมือนฟีเจอร์ที่สามารถตั้งค่าต่อได้ง่ายดาย ดังนั้น n8n จึงช่วยสร้างเครื่องมืออัตโนมัติได้ตั้งแต่ภารกิจง่าย ๆ ไปจนถึงเวิร์กโฟลว์เชิงซอฟแวร์ที่มีฟีเจอร์การทำงานที่ซับซ้อน
การประยุกต์ใช้ n8n สามารถเริ่มต้นโปรเจคได้ตั้งแต่งานง่าย ๆ เช่น การใช้ Automation เพื่อเรียกเก็บข้อมูลในฐานข้อมูล ส่งการแจ้งเตือน หรืออัปเดตงานในแอปที่ใช้เป็นประจำของคุณ และนำความคุ้นชินกับ n8n เพื่อจัดการงานที่อาศัยการประยุกต์ใช้ n8n ในระดับที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น การส่งคำร้อง HTTP ร่วมกับโค้ด Python หรือ Javascript ได้อย่างอิสระ หรือสร้าง AI ที่ผสมผสานกับ RAG ด้วยชุดข้อมูลของบริษัท เป็นต้น
ตัวอย่างงานที่ใช้ n8n เพื่อทำ Automation
1. ช่วยงานด้านไอที
n8n ช่วยลดภาระงานซ้ำซากที่คุณและทีมต้องเผชิญในทุกวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการตั้งค่าเวิร์กโฟลว์ให้ทำงานอัตโนมัติในงานที่ซ้ำ ๆ เช่น การอัปเดตแพตช์ การโพสต์เนื้อหาลงบนโซเชียลมีเดีย การนำบทความขึ้นเว็บไซต์ และการตรวจเช็คสถานะเซิร์ฟเวอร์
นอกจากนี้ n8n ยังสามารถเชื่อมต่อและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงาน IT ของคุณไว้ในหน้าจอเดียว ทำให้การบันทึก Log และตั้งค่าแจ้งเตือนไปที่อีเมลกลายเป็นเรื่องง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อข้อมูลจากซอฟแวร์ที่สามารถ integrations ด้วย n8n เช่น Slack, Jira หรือ Microsoft Teams, รวมถึงสามารถตั้งค่า API Call Limit, การตั้งค่าระบบรีเซ็ตรหัสผ่านอัตโนมัติ และการแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญและปัญหาที่เกี่ยวกับโครงสร้าง IT ได้แบบทันใจ ด้วย n8n งานที่เคยเป็นภาระสำหรับทีมจะกลายเป็นเรื่องง่าย และช่วยให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีคุณค่ามากขึ้นได้อย่างเต็มที่
2. ช่วยหาลูกค้าอัตโนมัติ(Lead Automation)
เพิ่มโอกาสในการหาลูกค้าด้วยการใช้เครื่องมือค้นหา Lead ที่มีคุณภาพแบบอัตโนมัติ n8n ช่วยให้คุณเชื่อมต่อเครื่องมือการตลาดทั้งหมดไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น Jotform, Typeform, Pipedrive, Salesforce และ Hubspot โดยการเชื่อมต่อโหนดเข้ากับบริการตรวจสอบข้อมูลติดต่อ
นอกจากนี้ n8n ยังสามารถตั้งค่าเวิร์กโฟลว์ให้ดึงข้อมูลเบอร์โทรศัพท์และอีเมลจากเว็บไซต์อื่น ๆ แบบอัตโนมัติ และเก็บกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเหล่านั้นไว้ใน Sheet ที่คุณกำหนดค่าไว้ได้ง่าย ๆ ทำให้การจัดการ Lead เป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยให้คุณสามารถมุ่งเน้นที่การนำเสนอและพัฒนากลยุทธ์การตลาดได้อย่างเต็มที่
3. สร้าง Chat bot AI เพื่อพัฒนาระบบ CRM
n8n เปิดโอกาสให้คุณเชื่อมต่อ Messaging API ได้ตามความต้องการ โดยการจับคู่การสนทนาของบัญชีทางธุรกิจเข้ากับโหนดใน n8n และผสมผสานกับ Generative AI ยอดนิยมอย่าง Open AI หรือ Ollama โดยมีการเพิ่มความสามารถ AI Agent ผ่านโหนด RAG (Retrieval Augmented Generation) ที่คุณสามารถปรับแต่งเองได้
ด้วยเหตุนี้ AI Chatbot ที่ถูกสร้างขึ้นสามารถตอบคำถามลูกค้าได้อย่างตรงประเด็น จดจำลูกค้าได้ และรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้ Chatbot ยังสามารถทำงานอัตโนมัติได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีการหยุดพัก ทำให้คุณมั่นใจว่าการให้บริการลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเวลา
4. จัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์(SOAR)
สร้างระบบตรวจสอบภัยคุกคามทางไซเบอร์ (SOAR) ของคุณได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถสร้างเวิร์กโฟลว์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ API หรือการตรวจสอบสิทธิ์ ด้วยการลากและวางโหนด ทำให้ทีมโปรแกรมเมอร์และนักพัฒนาทำงานได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น เพื่อรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยอินเทอร์เฟซผู้ใช้ (UI) ที่เข้าใจง่าย
นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ Javascript หรือ Python พื้นฐานผ่านตัวแก้ไขใน n8n เพื่อแทรกขั้นตอนโค้ดลงในเวิร์กโฟลว์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ยังสามารถดูการทำงานของเวิร์กโฟลว์แบบเรียลไทม์ในขณะที่สร้างและทดสอบทีละขั้นตอน ซึ่งทำให้การแก้ไขบัค (Debug) ง่ายขึ้นและไม่เป็นเรื่องปวดหัวอีกต่อไป
5. ตัวทดสอบโครงสร้างหลังบ้าน (Backend Prototyping)
คุณสามารถทดลองสร้างต้นแบบแบ็กเอนด์สำหรับ SaaS ได้ด้วย n8n โดยสามารถตั้งค่าเอ็นด์พอยต์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อลองฟีเจอร์ใหม่ ๆ หรือทดสอบการแก้ไขปัญหาเอ็นด์พอยต์เมื่อเกิดข้อผิดพลาด การสร้างต้นแบบนี้ช่วยให้คุณสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยโครงสร้างการทดลองที่เหมาะสำหรับงานในอนาคต
ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าเหตุการณ์กระตุ้นสำหรับแอป หรือกำหนดการหน่วงเวลาเพื่อสังเกตการณ์การดึงข้อมูลข้ามสแต็กของแอป รวมถึงการทดลองปรับแต่งระบบการออกแบบ โดยไม่ต้องแยกฐานรหัสข้อมูล สิ่งเหล่านี้ทำให้กระบวนการพัฒนาและทดลองเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
n8n vs make เจ้าไหนดีกว่า?
เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง Make.com และ n8n สำหรับการเลือกใช้ระบบการจัดการงานอัตโนมัติที่ผสานกับเทคโนโลยี AI ในปี 2025 ตัวเลือกจะขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของผู้ใช้เป็นสำคัญ
สำหรับผู้ที่มองหาความง่ายและประหยัดในระยะเริ่มต้นของโปรเจค(แม้ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเมื่อขยายขนาด) และเน้นการใช้งานเพียงตัวจัดการงานอัตโนมัติเป็นหลัก การเลือก Make.com จะเหมาะสมกว่า
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการแพลตฟอร์มที่อาจมีราคาสูงกว่าในเมื่อเริ่มต้น แต่มีความคุ้มค่าและประหยัดมากขึ้นเมื่อใช้งานในระยะยาว พร้อมด้วยความสามารถในการสร้างการทำงานอัตโนมัติด้วย AI และใช้ Agent AI รวมถึงการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลที่ซับซ้อน n8n จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
จากประสบการณ์ของ Sixtygram Agency ที่ได้ใช้งานทั้งสองแพลตฟอร์ม พวกเราขอแนะนำ n8n เนื่องจากมีฟีเจอร์ที่หลากหลายและชุมชนนักพัฒนาที่เข้มแข็ง ซึ่งช่วยในการแก้ปัญหา การแลกเปลี่ยนความรู้ และการแชร์เทมเพลตได้อย่างครอบคลุมมากกว่าเจ้าคู่แข่ง
ราคาของ n8n
ราคาของ n8n นั้นขึ้นอยู่กับความสอดคล้องระหว่างเป้าหมายการใช้งานและงบประมาณของผู้ใช้ โดยทั่วไปแล้ว n8n เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่สามารถใช้งานได้ฟรีหากผู้ใช้เลือกที่จะติดตั้งเอง (Self-hosting) โดยค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับการเลือกแพ็คเกจบนโฮสต์ติ้งของคุณ
สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายมากที่สุด สามารถเลือกใช้เวอร์ชันคลาวด์ของ n8n ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 900 บาทต่อเดือนสำหรับแผน Starter ที่เหมาะสำหรับโปรเจกต์ทั่วไป แต่หากคุณมีโปรเจกต์ที่ซับซ้อนหรือทำงานในทีมและต้องการพัฒนาการทำงานอัตโนมัติ แผน Pro ที่มีราคาประมาณ 2000 บาทต่อเดือนจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
สำหรับผู้ที่ต้องการความควบคุมและยืดหยุ่น เราแนะนำให้ติดตั้งเวอร์ชันที่โฮสต์เองของ n8n บน Virtual Private Server (VPS) จากผู้ให้บริการโฮสติ้ง โดยแพ็กเกจขั้นต่ำของแต่ละโฮสติ้งก็เพียงพอที่จะเริ่มใช้งาน n8n ได้ โดยคุณจะต้องทำการติดตั้ง n8n บนระบบปฏิบัติการที่โฮสต์รองรับ เช่น Ubuntu อย่างไรก็ตาม ควรใส่ใจเรื่องการใช้งานทรัพยากร เพราะอาจเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อคุณเพิ่มความซับซ้อนของเวิร์กโฟลว์ ควรตรวจสอบการใช้งานทรัพยากรของ VPS อย่างสม่ำเสมอและปรับปรุงตามความจำเป็น
สำหรับผู้ที่มีความรู้ด้านเทคนิค สามารถลองใช้ n8n ได้ฟรีโดยใช้งานผ่าน Local Host ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของคุณจาก Raspberry Pi ร่วมกับ Node.js หรือ Docker แม้ว่าจะไม่สะดวกเท่ากับการใช้งานผ่าน VPS แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการทดลองใช้ n8n ว่าเหมาะสมกับความต้องการของคุณหรือไม่
