การตัดต่อวิดีโอเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการสร้างคอนเทนต์ยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อวิดีโอสั้นๆ สำหรับแชร์บนโซเชียลมีเดีย หรือการตัดต่อวิดีโอที่มีความซับซ้อนมากขึ้นสำหรับงานมืออาชีพ การมีแอปตัดต่อวิดีโอที่ดีและใช้งานง่ายจะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ในปี 2024 นี้มีแอปตัดต่อวิดีโอมากมายที่ได้รับการปรับปรุงและออกฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานยุคใหม่ ทั้งกลุ่มสำหรับมือใหม่และกลุ่มมืออาชีพ เรามาดูกันว่ามีแอปตัดต่อวิดีโอทั้งในโทรศัพท์และใน PC เด่นๆ อะไรบ้างที่น่าสนใจในปีนี้
1. CapCut

เป็นแอปตัดต่อวิดีโอยอดนิยมสำหรับมือถือ มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย ใช้งานสะดวก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น CapCut มีฟีเจอร์ครบครันตั้งแต่การตัดต่อพื้นฐาน การเพิ่มสติกเกอร์ แคปชั่น เอฟเฟกต์ต่างๆ พร้อมทั้งฟีเจอร์สำหรับการถ่ายวิดีโอแบบ PIP และแทร็กเสียงที่น่าสนใจ
- จุดเด่น: อินเทอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานสะดวก เหมาะสำหรับมือใหม่ มีทั้งฟรีและเสียเงิน
- ดาวน์โหลด: แอปพลิเคชันบนมือถือ iOS และ Android ฟรี
- มีรุ่นพรีเมียมเริ่มต้น $6.98/ปี
2. Inshot

อีกหนึ่งแอปยอดนิยมบนมือถือ Inshot มีจุดเด่นที่อินเทอร์เฟซการใช้งานที่ง่ายสำหรับการตัดต่อวิดีโอเบื้องต้น สามารถใส่สติกเกอร์ แคปชั่น มุมมองต่างๆ และเอฟเฟกต์เสียงได้หลากหลาย ใช้งานได้ฟรีแต่มีบางฟีเจอร์ต้องซื้อเป็นออพชั่นเสริม
- จุดเด่น: ตัดต่อและใส่เอฟเฟกต์ได้หลากหลาย ใช้งานง่าย มีทั้งฟรีและเสียเงิน
- ดาวน์โหลด: แอปฟรีบนมือถือ iOS และ Android
- มีออพชั่นชำระเงินเพื่อขยายฟังก์ชั่นเพิ่มเติม
3. Filmora Go

แอปตัดต่อคลิปวิดีโอจาก Wondershare สำหรับผู้ใช้งานมือถือ มีอินเทอร์เฟซที่ดูทันสมัย ใช้งานง่าย สามารถตัดต่อ แก้ไขวิดีโอ ใส่ซาวน์เทร็ค ข้อความ สติ๊กเกอร์ และฟิลเตอร์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย
- จุดเด่น: อินเทอร์เฟซทันสมัย ฟีเจอร์ตัดต่อครบครัน
- ดาวน์โหลด: แอปมือถือ iOS และ Android
- ราคา $1.07/เดือน หากซื้อรายปีหรือมีแผนราคาสูงกว่านี้
4. Quik

เป็นแอปตกแต่งวิดีโอจาก GoPro เน้นให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอสไตล์มืออาชีพได้อย่างง่ายดาย มีฟีเจอร์ต่างๆ มากมายรวมทั้งฟิลเตอร์ เอฟเฟกต์ และโหมดสำหรับการประกอบวิดีโอด้วยไทม์แลปส์หรือคลิปหลายๆ คลิปเข้าด้วยกัน
- จุดเด่น: ออกแบบมาเพื่อสร้างวิดีโอด้วยฟีเจอร์มืออาชีพอย่างง่ายดาย
- ดาวน์โหลด: แอปฟรีสำหรับ iOS, Android และแอปบน Apple Watch
- ฟรีทั้งหมด
5. Adobe Premiere Rush

แอปตัดต่อวิดีโอหน้าตาสวยงามและใช้งานง่ายจากแบรนด์ดัง Adobe มีเครื่องมือที่ทันสมัยสำหรับการตัดต่อ ใส่เอฟเฟกต์ ปรับแสง สี และเสียง มีทั้งรุ่นฟรีและเวอร์ชั่นพรีเมี่ยม
- จุดเด่น: มีฟีเจอร์ปรับแต่งวิดีโออย่างละเอียด คุณภาพดี แบรนด์ดัง
- ดาวน์โหลด: แอปสำหรับ iOS, Android และคอมพิวเตอร์
- ฟรีแต่จำกัดฟังก์ชัน มีแพ็คเกจพรีเมียม $9.99/เดือน หรือรวมใน Creative Cloud
6. Videoshop – Video Editor

สำหรับ VideoShop แอพตัดต่อบนมือถือที่มาพร้อมฟีเจอร์จำนวนมากทั้งการใส่สติกเกอร์ แคปชั่น ซับไตเติ้ล พิคเซลเอฟเฟกต์ เคล็ดลับสำหรับการใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว เหมาะสำหรับการสร้างวิดีโอคอนเทนต์สั้นๆ
- จุดเด่น: มีฟีเจอร์การทำงานครบถ้วน สามารถใส่สติ๊กเกอร์ แคปชั่น และเอฟเฟกต์ได้หลากหลาย
- ดาวน์โหลด: แอปฟรีสำหรับ iOS และ Android
- ฟรี แต่มีบางฟีเจอร์เป็นรายการซื้อเพิ่มเติม
7. Videoleap

อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ Videoleap แอปตัดต่อวิดีโอบนมือถือ มาพร้อมชุดเครื่องมือครบครัน ใช้งานง่าย สามารถใส่เอฟเฟกต์ภาพนิ่ง วิดีโอและเสียงได้หลากหลาย มีรุ่นพรีเมียมให้เลือกใช้งานฟีเจอร์เสริม
- จุดเด่น: มีชุดเครื่องมือครบครัน ใส่เอฟเฟกต์ได้หลากหลาย
- ดาวน์โหลด: แอปฟรีสำหรับ iOS และ Android
- มีรุ่นพรีเมียม $6.99/เดือน หรือซื้อรายปี
8. Funimate Video Editor

Funimate Video Editor เป็นแอปที่เจาะกลุ่มสำหรับการสร้างคลิปวิดีโอคลิปสั้นแนว Vlog แต่ก็มีฟีเจอร์สำหรับการตัดต่อขั้นสูงให้ใช้ด้วย มีทั้งเครื่องมือสำหรับการตัดต่อ ปรับแต่งคลิป ใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ
- จุดเด่น: เน้นสร้างวิดีโอคลิปสั้นๆ แต่มีโหมดตัดต่อขั้นสูงให้ใช้ด้วย
- ดาวน์โหลด: แอปฟรีสำหรับ iOS และ Android
- มีรุ่นพรีเมียม Funimate Pro ในราคา $3.99/เดือน
9. PowerDirector Mobile

PowerDirector Mobile แอปจากค่ายซอฟต์แวร์ชื่อดังอย่าง CyberLink พร้อมเครื่องมือตัดต่อวิดีโอแบบครบครัน ทั้งการตัดต่อพื้นฐานและการปรับแต่งที่สามารถทำได้อย่างละเอียดและทันสมัย
- จุดเด่น: แอปตัดต่อวิดีโอขั้นสูง ฟังก์ชันแบบมืออาชีพ
- ดาวน์โหลด: แอปมือถือบน iOS และ Android
- ราคาตั้งแต่ $4.99 สำหรับ PowerDirector Standard version
10. KineMaster

KineMaster เรียกได้ว่าเป็นแอปตัดต่อที่มีฟีเจอร์ครบครันที่สุดแอปหนึ่งสำหรับการตัดต่อวิดีโอบนมือถือ สามารถนำเข้าวิดีโอหลายแทร็กมาทำงานร่วมกันได้ ใช้งานกราฟิกได้หลากหลาย คุ้มค่าสำหรับการลงทุนใช้งานรุ่นพรีเมี่ยม
- จุดเด่น: เป็นแอปสำหรับตัดต่อวิดีโออย่างมืออาชีพบนมือถือ
- ดาวน์โหลด: แอปมือถือ iOS และ Android
- ฟรีแต่มีออพชั่น KineMaster Premium $16.99/เดือน
11. Filmmaker Pro

อีกหนึ่งทางเลือกสำคัญสำหรับมือใหม่ที่อยากสร้างคลิปที่มีคุณภาพ Filmmaker Pro มาพร้อมหน้าต่างแก้ไขหลายหน้า ทำให้สามารถแยกการทำงานได้แบบวิดีโอ เสียง และกราฟิกขึ้นนำ เสริมความเป็นมืออาชีพให้กับการทำงานบนมือถือ
- จุดเด่น: แอปตัดต่อมืออาชีพ มีหน้าต่างการทำงานแยกส่วน
- ดาวน์โหลด: แอปบนมือถือ iOS เท่านั้น
- ราคา $6.99 (ซื้อครั้งเดียว)
12. Adobe Premiere Pro

สำหรับใครที่มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์และความสามารถ การลงทุนกับ Adobe Premiere Pro ที่มีเวอร์ชั่นสำหรับมือถือแล้ว ก็จะทำให้สามารถตัดต่อวิดีโออย่างมืออาชีพบนมือถือได้จริง แต่คงต้องผ่านการเรียนรู้เสียก่อน
- จุดเด่น: โปรแกรมตัดต่อวิดีโอแบบมืออาชีพสำหรับทำคอนเทนต์ระดับสูง
- ดาวน์โหลด: แอปบนมือถือ iOS และ iPad เท่านั้น
- ฟรีสำหรับ Starter Plan แต่มีข้อจำกัด สมัครบริการ $20.99/เดือน
13. Filmora X

Filmora X เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอแบบครบครันจากบริษัทใหญ่อย่าง Wondershare ที่พร้อมปรับให้การทำงานกลายเป็นระดับอาชีพไปเลย มีฟีเจอร์มากมายให้ใช้ รวมถึงการจัดการวิดีโออย่างละเอียดก่อนการตัดต่อ
- จุดเด่น: โปรแกรมตัดต่อวิดีโออย่างละเอียด ระดับมืออาชีพ
- ดาวน์โหลด: ใช้บนคอมพิวเตอร์ Windows และ macOS
- ราคาขึ้นอยู่กับแผนการใช้งาน เช่น ซื้อครั้งเดียว $59.99 หรือสมาชิกรายปี $53.99
14. Final Cut Pro

Final Cut Pro เป็นโปรแกรมตัดต่อจากแอปเปิลที่ได้รับการปรับให้รองรับมือถือและ iPad เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานของมืออาชีพยุคใหม่ แต่จะต้องใช้อุปกรณ์แอปเปิลและผ่านการเรียนรู้เช่นกัน
- จุดเด่น: โปรแกรมตัดต่อวิดีโอสำหรับ macOS และ iPad ใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น
- ดาวน์โหลด: ทำงานบนอุปกรณ์แอปเปิลเท่านั้น
- ราคา $299.00 (ซื้อครั้งเดียว)
15. DaVinci Resolve

DaVinci Resolve จากบริษัท BlackMagic คือชุดโปรแกรมแก้ไขวิดีโออย่างมืออาชีพที่มีทั้งระบบตัดต่อและปรับแต่งวิดีโออย่างละเอียด ต้องมีความเข้าใจอย่างดีจึงจะเก่งการใช้งานได้จริง
- จุดเด่น: ชุดโปรแกรมตัดต่อและปรับแต่งวิดีโอระดับอาชีพ
- ดาวน์โหลด: สำหรับ Windows, macOS, Linux และมือถือ
- มีรุ่นฟรี (DaVinci Resolve Free) แต่จำกัดฟังก์ชัน หรือเวอร์ชั่นเต็มในราคา $295
อย่างไรก็ตาม สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มหัดตัดต่อวิดีโอ แนะนำให้เลือกใช้งานจากแอปที่มีอินเทอร์เฟซใช้งานง่าย ฟีเจอร์การทำงานไม่ซับซ้อนและทำความเข้าใจการทำงานได้ไม่ยาก ก่อนที่จะก้าวไปสู่การใช้งานระดับสูงขึ้นก็น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตาม บางแอปอาจมีรุ่นทดลองใช้งานฟรีบางส่วนก่อน เช่น DaVinci Resolve มีรุ่น Free Version แต่จำกัดบางฟังก์ชัน หรือบางแอปอาจมีรุ่นฟรีกับพรีเมียมให้เลือก เช่น Adobe Premiere Pro ก็มีรุ่น Starter Plan ฟรีแต่จำกัดฟีเจอร์หลายอย่าง
ความสำคัญของแอปตัดต่อวิดีโอ
แอพตัดต่อคลิปวิดีโอหรือโปรแกรมตัดต่อวีดีโอมีความสำคัญในหลายๆ ด้าน ดังนี้
- ช่วยให้การสร้างคอนเทนต์วิดีโอทำได้ง่ายขึ้น ในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันสร้างคอนเทนต์วิดีโอกันสูง แอปตัดต่อวิดีโอช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งนักสร้างคอนเทนต์มืออาชีพและคนทั่วไป สามารถสร้างวิดีโอคอนเทนต์ที่น่าสนใจด้วยฟีเจอร์และเครื่องมือที่หลากหลาย
- ทำให้วิดีโอมีความน่าสนใจมากขึ้น การตัดต่อวิดีโอด้วยแอปช่วยเพิ่มมิติและสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจให้กับผู้ชมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใส่เอฟเฟกต์ ปรับแต่งสี เสียง ฯลฯ ทำให้วิดีโอดูโดดเด่นและมีสีสันมากยิ่งขึ้น
- ตอบโจทย์การทำงานบนอุปกรณ์พกพา ด้วยการที่ปัจจุบันผู้คนใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมากขึ้น แอปตัดต่อวิดีโอสำหรับมือถือจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างคอนเทนต์จากที่ไหนก็ได้ตามความต้องการ
- ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับการลงทุนซื้อโปรแกรมตัดต่อวิดีโอสำหรับคอมพิวเตอร์ที่มีราคาสูง แอปตัดต่อวิดีโอแม้บางตัวจะเสียค่าใช้จ่าย แต่ก็ถูกกว่ามาก นับเป็นทางเลือกที่ประหยัดและคุ้มค่าสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์หน้าใหม่
- ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ด้วยเครื่องมือและฟีเจอร์อันหลากหลายของแอปตัดต่อวิดีโอ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอในรูปแบบใหม่ๆได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เป็นการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการออกมาสู่โลกออนไลน์
โดยสรุป แอปตัดต่อวิดีโอจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 21 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการสร้างคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นผู้สร้างคอนเทนต์รายใหม่หรือรายเก่า ก็สามารถใช้ประโยชน์จากแอปตัดต่อวิดีโอได้เป็นอย่างดี