Nattapat

14 ตุลาคม 2024

อยากเป็นผู้กำกับต้องอ่าน ประสบการณ์จากคุณพีระพันธ์ เหล่ายนตร์

Sixtygram Digital Marketing Agency มีความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาในวงการสื่อโปรดักชั่นและภาพยนตร์ ในฐานะส่วนหนึ่งของบริษัทเอเจนซี่การตลาดที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เราได้จัดกิจกรรมบรรยายพิเศษโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายให้แก่ นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา(SSRU) เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ในหัวข้อ “Production Skill Seminar” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำและแนะแนวทางสู่การประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมนี้

พีระพันธ์ เหล่ายนตร์ ผู้กำกับ

ในครั้งนี้ เรามีเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความร่วมมือจากคุณพีระพันธ์ เหล่ายนตร์(Piraphan Laoyont) ผู้กำกับดีกรีเข้าชิงรางวัล ภาพยนต์แห่งชาติ สุพรรณหงษ์ และผู้กำกับหนังไทยชื่อดังอย่าง สวยลากไส้(2007) มาเป็นวิทยากรร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่า บทความนี้เป็นการสรุปเนื้อหาจากการบรรยาย ซึ่งครอบคลุมหัวข้อสำคัญต่างๆ ดังนี้

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่านที่กำลังสนใจงานด้านการผลิตวิดีโอ โปรดักชั่น ภาพยนตร์ และสื่อทุกแขนง ทั้งนี้ Sixtygram Digital Marketing Agency ขอเชิญชวนสถาบันการศึกษาที่สนใจจัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกันนี้ สามารถติดต่อเราได้ทันที เรายินดีให้การสนับสนุนรับเป็นวิทยากรให้การบรรยายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรคุณภาพสู่วงการสื่อและภาพยนตร์ไทยต่อไป

สำหรับตอนนี้ เริ่มต้นกันเลยที่หัวข้อแรก

1. จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการภาพยนตร์

461938277 122195476016188511 947918421099191154 n

1.1 จากสถาปนิกสู่วงการภาพยนตร์

คุณพีระพันธ์ เหล่ายนตร์ เริ่มต้นอาชีพในฐานะสถาปนิก แต่หลังจากทำงานได้ 3 ปี เขาเริ่มรู้สึกเบื่อกับงานนั่งโต๊ะ ประกอบกับช่วงนั้นเกิดวิกฤตฟองสบู่แตก ทำให้เขาตัดสินใจลาออกและมองหาโอกาสใหม่ การตัดสินใจครั้งนี้นำพาเขาสู่เส้นทางในวงการภาพยนตร์ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตการทำงานของเขา

1.2 โอกาสแรกในวงการภาพยนตร์

โอกาสแรกของคุณพีระพันธ์ในวงการภาพยนตร์คือการทำงานเป็น Art Director ในภาพยนตร์เรื่อง “กำแพง(1999)” ซึ่งนำแสดงโดยปิ่น เก็จมณี และฟลุ๊ค เกริกพล นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้สัมผัสกับโลกของการสร้างภาพยนตร์อย่างใกล้ชิด และเป็นประสบการณ์ที่เปิดโอกาสให้เขาได้เรียนรู้งานในหลากหลายด้านของการผลิตภาพยนตร์

1.3 ความสำคัญของการรู้จักคนในวงการ

คุณพีระพันธ์เน้นย้ำว่าการรู้จักคนในวงการเป็นปัจจัยสำคัญในการได้งาน เขาเล่าถึงประสบการณ์การได้โอกาสทำงานผ่านการแนะนำของคนรู้จัก และการพบปะพูดคุยกับผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ ความสัมพันธ์และเครือข่ายที่สร้างขึ้นในวงการนี้มีส่วนสำคัญในการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ และการได้รับงานในโปรเจกต์ต่างๆ

2. บทบาทและหน้าที่สำคัญในกองถ่าย

2.1 Producer (โปรดิวเซอร์)

Producer เป็นผู้ดูแลภาพรวมและการเงินของโครงการ มีหน้าที่สำคัญในการหาเงินทุนและควบคุมงบประมาณ ในบางกรณี โดยเฉพาะในประเทศไทย Producer อาจเป็นคนเดียวกับผู้กำกับ ซึ่งทำให้การตัดสินใจในด้านการสร้างสรรค์และการเงินเป็นไปอย่างสอดคล้องกัน แต่ก็อาจเป็นความท้าทายในการบริหารจัดการทั้งสองด้านพร้อมกัน

461779409 122195475920188511 7050716063401573242 n

2.2 Director (ผู้กำกับ)

ผู้กำกับเป็นผู้ควบคุมงานสร้างสรรค์ทั้งหมดในการผลิตภาพยนตร์ มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดในกองถ่าย และรับผิดชอบต่อผลงานที่ออกมาทั้งหมด คุณพีระพันธ์เล่าว่า การเป็นผู้กำกับนั้นเป็นงานที่ท้าทายและสนุกที่สุด เพราะได้ควบคุมทุกแง่มุมของการสร้างภาพยนตร์ แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่สูงมากเช่นกัน

2.3 Assistant Director (ผู้ช่วยผู้กำกับ)

ผู้ช่วยผู้กำกับมีหน้าที่ในการจัดการกองถ่าย ซึ่งไม่ใช่งานสร้างสรรค์โดยตรง แต่เป็นงานบริหารจัดการที่สำคัญมาก แบ่งเป็น First Assistant Director ที่ดูแลการถ่ายทำในฉาก และ Second Assistant Director ที่ดูแลนอกฉาก พวกเขามีหน้าที่ควบคุมเวลาและจัดการตารางการถ่ายทำ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำให้การผลิตภาพยนตร์เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

2.4 Art Director (ผู้กำกับศิลป์)

ผู้กำกับศิลป์มีหน้าที่ดูแลฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก โดยต้องตีความบทและสร้างสรรค์องค์ประกอบทางภาพให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ คุณพีระพันธ์เล่าถึงประสบการณ์การเป็น Art Director ว่าเป็นงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายในการจัดการวัสดุอุปกรณ์จำนวนมาก และต้องทำงานหนักทั้งก่อนและหลังการถ่ายทำ

2.5 Director of Photography (ผู้กำกับภาพ)

ผู้กำกับภาพมีหน้าที่วางแผนการถ่ายทำภาพรวม ควบคุมทีมกล้องและแสง รวมถึงตีความบทและสร้างสรรค์ภาพให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ คุณพีระพันธ์เล่าว่า การเป็นผู้กำกับภาพนั้นเป็นงานที่ท้าทายและสนุก เพราะได้สร้างสรรค์งานศิลปะผ่านภาพเคลื่อนไหว แต่ก็ต้องมีความรู้ทางเทคนิคและการทำงานร่วมกับทีมอย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านตำแหน่งทั้งหมดในกองถ่ายโปรดักชั่น(Production) ต่อเลย

3. เทคนิคและอุปกรณ์ในการถ่ายทำ

3.1 การใช้ Slate (แผ่นดำ)

การใช้ Slate

Slate หรือแผ่นดำ เป็นอุปกรณ์สำคัญในการซิงค์ภาพและเสียง โดยเฉพาะในยุคของการถ่ายทำด้วยฟิล์ม คุณพีระพันธ์อธิบายว่า Slate มีข้อมูลสำคัญเช่น ชื่อเรื่อง, ฉาก, take, วันที่ถ่ายทำ ซึ่งช่วยในการระบุตำแหน่งที่แน่นอนของภาพและเสียง การตี Slate อย่างถูกต้องมีความสำคัญมากในกระบวนการตัดต่อและการซิงค์เสียงในภายหลัง

3.2 การบันทึกเสียง

คุณพีระพันธ์อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างการใช้ไมค์บูมและไมค์ไร้สาย โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ Boom Operator ในการเก็บเสียงที่มีคุณภาพ เขาเล่าถึงความท้าทายในการทำงานร่วมกันระหว่างทีมเสียงและทีมภาพ และยกตัวอย่างสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในกองถ่าย เช่น การจัดการกับเสียงรบกวนจากอุปกรณ์ต่างๆ

3.3 Time Code และการซิงค์ในยุคดิจิทัล

ในยุคดิจิทัล การซิงค์ภาพและเสียงมีความซับซ้อนน้อยลง แต่ก็ยังคงมีความสำคัญ คุณพีระพันธ์อธิบายถึงวิธีการใช้ Time Code ในการระบุตำแหน่งที่แน่นอนของภาพและเสียง และวิธีการทำงานของ DIT (Digital Imaging Technician) ในการจัดการไฟล์ดิจิทัล เขายังเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการทำงานในยุคฟิล์มและยุคดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีในวงการภาพยนตร์

461801689 122195475668188511 3276116154311663072 n

4. การเลือกสายงานในวงการภาพยนตร์

4.1 สายงานจัดการ

งานจัดการในวงการภาพยนตร์ เช่น ตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับ, Producer, Production Manager เหมาะสำหรับคนที่ชอบงานบริหารจัดการ การวางแผน และการแก้ปัญหา คุณพีระพันธ์เล่าถึงประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับ ว่าเป็นงานที่ท้าทายและต้องใช้ทักษะการจัดการสูง แต่อาจไม่ได้มีส่วนร่วมในงานสร้างสรรค์มากนัก เขาแนะนำว่าผู้ที่ชอบงานด้านนี้มีโอกาสก้าวหน้าสู่ตำแหน่ง Producer หรือ Executive Producer ได้ในอนาคต

4.2 สายงานสร้างสรรค์

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานสร้างสรรค์ คุณพีระพันธ์แนะนำตำแหน่งเช่น ผู้กำกับ ผู้กำกับภาพ Art Director หรือ Editor งานเหล่านี้เหมาะสำหรับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีวิสัยทัศน์ และชอบการทำงานที่ได้แสดงออกทางศิลปะ เขาเล่าถึงความสุขและความท้าทายในการทำงานสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในตำแหน่งผู้กำกับ ที่ต้องควบคุมทุกแง่มุมของการสร้างภาพยนตร์ แต่ก็ได้รับความพึงพอใจสูงเมื่อเห็นผลงานสำเร็จ

5. โอกาสและความท้าทายในยุคปัจจุบัน

คุณพีระพันธ์กล่าวว่า ในยุคปัจจุบัน การเริ่มต้นทำงานในวงการภาพยนตร์และสื่อทำได้ง่ายขึ้นมาก เนื่องจากอุปกรณ์และเทคโนโลยีเข้าถึงได้ง่ายและมีราคาถูกลง เขายกตัวอย่างว่า สมัยก่อนการทำสีภาพยนตร์ต้องใช้อุปกรณ์ราคาหลายล้านบาท แต่ปัจจุบันสามารถทำได้ด้วยคอมพิวเตอร์ส่วนตัวราคาไม่กี่หมื่นบาท

461836119 122195476046188511 2084005550964678030 n

อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าแม้โอกาสจะมากขึ้น แต่การประสบความสำเร็จยังคงต้องใช้ความพยายามและความสามารถเช่นเดิม คุณพีระพันธ์เปรียบเทียบว่า ในอดีตอาจมีคน 500 คนแข่งขันกันเพื่อเป็นนักร้องดัง 1 คน แต่ในปัจจุบัน แม้จะมีช่องทางเช่น YouTube ที่ทำให้คนสามารถสร้างผลงานได้ง่ายขึ้น แต่จำนวนคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ก็ยังคงมีสัดส่วนใกล้เคียงกับในอดีต

6. คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเข้าสู่วงการ

คุณพีระพันธ์ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเข้าสู่วงการภาพยนตร์และสื่อ โดยเน้นย้ำว่าการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงเป็นสิ่งสำคัญ เขาแนะนำให้เริ่มจากการทำงานเล็กๆ เช่น เป็นนักแสดง Extra หรือผู้ช่วยในกองถ่าย เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศการทำงานจริงและสร้างเครือข่ายในวงการ

นอกจากนี้ เขายังแนะนำให้ลองทำงานในหลายๆ ตำแหน่ง เพื่อค้นหาว่าตนเองชอบและถนัดงานแบบไหน คุณพีระพันธ์เล่าถึงประสบการณ์ของตนเองที่เริ่มจาก Art Director แล้วลองทำงานในตำแหน่งต่างๆ จนพบว่าชอบงานสร้างสรรค์มากกว่างานจัดการ

7. การพัฒนาตนเองในยุคดิจิทัล

คุณพีระพันธ์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เขาแนะนำให้ติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการถ่ายทำและตัดต่อ รวมถึงการเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ อยู่เสมอ

เขายกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงจากยุคฟิล์มสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งทำให้กระบวนการทำงานหลายอย่างเปลี่ยนไป เช่น การซิงค์ภาพและเสียง หรือการทำสีภาพยนตร์ ผู้ที่สามารถปรับตัวและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เร็วจะมีความได้เปรียบในการทำงาน

8. ความสำคัญของการสร้างผลงาน

คุณพีระพันธ์กล่าวว่า ในยุคปัจจุบัน การสร้างผลงานเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำให้ตนเองเป็นที่รู้จักในวงการ เขาแนะนำให้ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ เช่น สมาร์ทโฟนหรือกล้องดิจิทัลราคาไม่แพง ในการสร้างผลงานของตนเอง

เขายังเน้นย้ำว่า คุณภาพของผลงานสำคัญกว่าอุปกรณ์ที่ใช้ การมีความคิดสร้างสรรค์และการเล่าเรื่องที่น่าสนใจสามารถทำให้ผลงานโดดเด่นได้ แม้จะใช้อุปกรณ์ที่ไม่แพงมาก

9. การรับมือกับความท้าทายในวงการ

คุณพีระพันธ์เล่าถึงความท้าทายต่างๆ ที่อาจพบในการทำงานในวงการภาพยนตร์และสื่อ เช่น ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน ความกดดันจากการทำงานกับงบประมาณและเวลาที่จำกัด หรือการต้องปรับตัวกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เขาแนะนำให้มีความอดทน เรียนรู้จากประสบการณ์ และพยายามรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว นอกจากนี้ การสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถฝ่าฟันความท้าทายต่างๆ ได้

10. มุมมองต่ออนาคตของวงการภาพยนตร์และสื่อ

ในตอนท้าย คุณพีระพันธ์ได้แสดงมุมมองต่ออนาคตของวงการภาพยนตร์และสื่อ เขามองว่าเทคโนโลยีจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและการนำเสนอเนื้อหา เช่น การใช้ AI ในการสร้างภาพและเสียง หรือการพัฒนาของเทคโนโลยี VR และ AR

อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าแม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใด แต่หัวใจสำคัญของการสร้างภาพยนตร์และสื่อยังคงอยู่ที่การเล่าเรื่องที่สามารถสร้างอารมณ์และความรู้สึกร่วมให้กับผู้ชม ดังนั้น ผู้ที่มีทักษะในการเล่าเรื่องและเข้าใจอารมณ์ของมนุษย์จะยังคงเป็นที่ต้องการในวงการนี้ต่อไป

คุณพีระพันธ์ทิ้งท้ายด้วยการกล่าวว่า วงการภาพยนตร์และสื่อเป็นวงการที่ท้าทายแต่น่าตื่นเต้น และเขาหวังว่าคนรุ่นใหม่จะนำพาวงการนี้ไปสู่ความก้าวหน้าและสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่าต่อไปในอนาคต

Q&A: ถามตอบเกี่ยวกับอาชีพผู้กำกับ

ช่วงถามตอบผู้กำกับ

เริ่มจากการหาโอกาสเข้าไปสัมผัสกับกองถ่าย อาจเป็นการเข้าไปเป็นแบ็คกราวน์ในฉาก หรือหาโอกาสเข้าไปสังเกตการณ์ในกองถ่าย เพื่อซึมซับบรรยากาศและสร้างเครือข่ายกับคนในวงการ

ต้องเข้าใจว่าการทำงานในกองถ่ายเป็นการทำงานเป็นทีม ต้องมีความอดทนและปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีนอกเวลางาน เช่น การร่วมสังสรรค์ ก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีม

ต้องเข้าใจว่าการทำงานในกองถ่ายเป็นการทำงานเป็นทีม ต้องมีความอดทนและปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีนอกเวลางาน เช่น การร่วมสังสรรค์ ก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีม

ต่ละแนวมีความท้าทายต่างกัน เช่น หนังแอคชั่นมักใช้เวลาและทรัพยากรมาก หนังตลกต้องอาศัยทักษะเฉพาะตัวของนักแสดง ส่วนหนังผีอาจทำได้ง่ายกว่าในแง่ของการถ่ายทำ แต่ต้องเน้นการสร้างบรรยากาศและอารมณ์

ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก อาจเป็นการได้รับรางวัล การสร้างผลกำไร หรือการสื่อสารอารมณ์บางอย่างไปยังผู้ชม สิ่งสำคัญคือการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้และการรับฟังเสียงตอบรับจากผู้ชม

ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในด้านการผลิต มีทีมงานที่มีความสามารถ และมีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักในประเทศ

ควรเริ่มจากการหาโอกาสเข้าไปทำงานในกองถ่ายจริง อาจเริ่มจากตำแหน่งผู้ช่วย และพยายามแสดงความคิดสร้างสรรค์ให้เห็น นอกจากนี้ การทำงานร่วมกับเพื่อนในการสร้างผลงานของตัวเองก็เป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาทักษะ

ควรเริ่มจากการทำความเข้าใจหลักการใช้ภาพในการเล่าเรื่อง ฝึกฝนการมองภาพและการเชื่อมโยงภาพต่างๆ เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ การดูภาพยนตร์หลากหลายแนวและวิเคราะห์เทคนิคการตัดต่อก็เป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาทักษะ

วีดีโอย้อนหลังงานสัมนาฉบับเต็ม