หากคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ นั่นก็หมายความว่าคุณกำลังต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการใช้งาน Facebook อยู่แน่ๆ แต่เนื่องด้วยในขณะนี้ Facebook เองมีบัญชีผู้ใช้งานในไทยมากกว่า 51 ล้านบัญชี นั่นจึงทำให้ทาง Meta จึงสร้างแพลตฟอร์มศูนย์ความช่วยเหลือขึ้นเพื่อรองรับการแจ้งปัญหาต่างๆจากตัวระบบให้สะดวกมายิ่งขึ้น ซึ่งได้แยกย่อยได้เป็นหลายช่องทางตามลักษณะปัญหาที่แตกต่างกันออกไป
นั่นทำให้ในวันนี้ Sixtygram Agency จึงได้รวบรวมช่องทางการติดต่อและจัดทำคู่มือวิธีการติดต่อกับ Facebook ทั้งวิธีการแจ้งปัญหา ไปจนถึงการติดต่อทางเจ้าหน้าที่ Facebook โดยตรง มามอบให้แก่คุณกัน
ช่องทางติดต่อ Facebook
1. ศูนย์ความช่วยเหลือ Facebook

ศูนย์ความช่วยเหลือ Facebook คือแหล่งรวมความรู้ คู่มือและวิธีในการแก้ปัญหาทั่วไปที่พบได้บ่อย ซึ่งผู้ใช้งาน Facebook ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้จาก ศูนย์ความช่วยเหลือ(Help Center) โดยเลือกไปที่การตั้งค่า ซึ่งจะพบกับเมนู ความช่วยเหลือและการสนับสนุน ในนั้นคุณจะพบกับเมนูศูนย์ช่วยเหลือ
ภายในเว็บไซต์ของศูนย์ความช่วยเหลือ คุณจะพบกับบทความจำนวนมากที่จะตอบข้อสงสัยและวิธีการใช้งาน Facebook ทั่วไป รวมไปถึงคำถามที่พบบ่อยที่ทาง Facebook เองจัดทำขึ้นโดยใช้ข้อมูลจากกระทู้คำร้องและคำค้นหาจากผู้ใช้ที่ระบบมักพบเจอ เช่น การดูสิทธิ์การสร้างรายได้, ปัญหาบัญชีถูกปิดการใช้งาน, การตั้งค่าบัญชี ไปจนถึงปัญหาโฆษณาไม่เผยแพร่(แอดไม่รัน) เป็นต้น
2. รายงานปัญหาเพื่อติดเจ้าหน้าที่
ในกรณีที่คุณศึกษาบทความจาก ศูนย์ความช่วยเหลือ Facebook เบื้องต้นแล้ว แต่ก็ยังไม่พบบทความที่สามารถช่วยได้ และตรงกับปัญหาหรือข้อผิดพลาดจากการใช้งาน เช่น ปุ่มที่ไม่ทำงาน ฟีเจอร์บางอย่างหายไปหรือการแสดงผลผิดปกติ ผู้ใช้สามารถรายงานปัญหาเหล่านี้โดยตรงกับเจ้าหน้าที่ผ่านระบบของ Facebook ได้เช่นกัน

เพียงเข้าไปที่เมนูโปรไฟล์มุมขวาบน เลือก ความช่วยเหลือและการสนับสนุน จากนั้นเลือก รายงานปัญหา และเลือก บางอย่างผิดพลาด แล้วอธิบายสิ่งที่พบ พร้อมแนบภาพหน้าจอหรือวิดีโอประกอบ ระบบจะส่งข้อมูลนี้ไปยังทีม Facebook และผู้ใช้สามารถติดตามผลของวิธีนี้ได้ผ่านทางอินบ็อก Support Inbox ซึ่งช่องทางติดต่อในระบบนี้จะทำงานคล้ายกับ Support Ticket หรือกระทู้ที่จะมีพนักงานมาตอบกลับ
3. แชทสด(Live Chat) กับทีม Facebook
สำหรับผู้ที่มีบัญชีโฆษณาธุรกิจ(Business Account) และกำลังมีแคมเปญโฆษณาที่เปิดใช้งานอยู่ สามารถติดต่อทีมสนับสนุนผ่านระบบแชทสดได้ โดยเข้าไปที่ https://www.facebook.com/business/help

จากนั้น เลื่อนลงไปยังส่วน “ยังคงต้องการความช่วยเหลืออยู่ใช่ไหม” และกดปุ่ม “ติดต่อฝ่ายสนับสนุน” จากนั้นเลือกประเภทปัญหาที่ต้องการ เช่น ปัญหาด้านการชำระเงิน หรือปัญหาเครื่องมือจัดการโฆษณา อย่างไรก็ตาม วิธีติดต่อ Facebook แบบนี้ยังเปิดให้ใช้เฉพาะบางบัญชีและบางประเทศเท่านั้น หากไม่พบปุ่มแชทแสดงว่าบัญชีนั้นยังไม่สามารถใช้ช่องทางความช่วยเหลือจาก Facebook แบบนี้ได้

4. อีเมลฝ่ายสนับสนุนของ Facebook (ใช้เฉพาะกรณีจำเป็น)

โดยทั่วไปแล้ว Facebook จะเน้นให้ผู้ใช้งานติดต่อผ่านระบบช่วยเหลือภายใน เช่น ศูนย์ความช่วยเหลือ(Help Center) หรือการรายงานปัญหาในระบบแพลตฟอร์มโดยตรงเป็นหลัก แต่ในบางกรณีที่จำเป็นเร่งด่วนและมีความเป็นทางการ เช่น ปัญหาเรื่องทางกฎหมาย ลิขสิทธิ์ หรือการรายงานภัยคุกคามจากภายนอก ตัวระบบ Facebook ก็ยังคงเปิดช่องทางให้ใช้วิธีการติดต่อผ่านอีเมลอยู่บ้าง
ต่อไปนี้คืออีเมลที่สามารถใช้งานได้เพื่อติดต่อ Facebook กรณีจำเป็น
- [email protected] – ใช้สำหรับสอบถามหรือรายงานปัญหาทั่วไป
- [email protected] – สำหรับเรื่องทางกฎหมายหรือคำร้องด้านข้อมูลส่วนบุคคล(Privacy)
- [email protected] – ยื่นอุทธรณ์ในกรณีที่โพสต์หรือบัญชีถูกแบนจากระบบ
- [email protected] – ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา เช่น การละเมิดลิขสิทธิ์หรือเครื่องหมายการค้า
- [email protected] – แจ้งเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับฟิชชิ่งหรือความพยายามแอบอ้างเพื่อหลอกข้อมูลผู้ใช้
- [email protected] – สำหรับสื่อมวลชนที่ต้องการติดต่อเพื่อขอข้อมูลหรือแถลงการณ์จาก Meta
ทั้งนี้ควรเขียนอีเมลด้วยภาษาอังกฤษ ที่มีความสุภาพ ชัดเจน และมีการบรรยายรายละเอียดให้ครบถ้วน โดยเฉพาะหลักฐานหรือข้อมูลประกอบ เช่น ลิงก์โพสต์ที่เกี่ยวข้อง หรือข้อความอธิบายเหตุการณ์อย่างเป็นลำดับ เพื่อเพิ่มโอกาสได้รับการตอบกลับ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จำนวนมากได้แจ้งว่าว่าการติดต่อผ่านอีเมลมักใช้เวลานานกว่าจะได้รับคำตอบ หรือในบางครั้งไม่ได้รับการตอบกลับเลย จึงแนะนำให้ใช้วิธีนี้เฉพาะกรณีจำเป็นและในกรณีที่ช่องทางหลักใน Facebook ไม่สามารถช่วยเหลือได้จริง ๆ เท่านั้น
5. ติดต่อทีม Meta Pro ผู้ให้คำปรึกษา

Meta มีทีมที่เรียกว่า Meta Pro Team ซึ่งให้คำปรึกษาเฉพาะทางแก่เจ้าของธุรกิจที่โฆษณาบนแพลตฟอร์ม Meta โดยจะช่วยตรวจสอบแคมเปญ ปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณา(Ads) และแนะนำกลยุทธ์ต่างๆ
โดย Meta Pro Team แบ่งทีมการให้คำปรึกษาออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
1. Meta Marketing Pro ให้คำปรึกษาการปรับปรุงแคมเปญโฆษณาให้ตรงกับเป้าหมาย เช่น การเลือกกลุ่มเป้าหมาย การตั้งงบประมาณ และการออกแบบโครงสร้างแคมเปญให้เหมาะสม
2. Meta Technical Pro ให้คำปรึกษาด้านเทคนิค เช่น การเชื่อมต่อ Pixel, การตั้งค่า API, การตรวจสอบ Conversion, การแก้ปัญหาด้านฟีดสินค้า รวมถึงการตั้งค่า Events และเครื่องมือวัดผลทางเทคนิคต่างๆ
3. Meta Creative Pro ให้คำแนะนำด้านการออกแบบและคอนเทนต์โฆษณา เช่น การสร้างวิดีโอ Reels การใช้ภาพนิ่ง การตั้งโทนข้อความ รวมถึงไอเดียการเล่าเรื่อง เพื่อให้คอนเทนต์ดึงดูดและเพิ่มโอกาสในการคลิกหรือมีส่วนร่วม
4. Meta Measurement Pro สำหรับธุรกิจที่ต้องการประเมินผลและปรับปรุงการวัดผลโฆษณา โดยทีมนี้จะช่วยทดสอบการตั้งค่าต่างๆ วิเคราะห์ผลลัพธ์ และแนะนำวิธีลดต้นทุนในระยะยาวจากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
5. Meta Support Pro ผู้ให้ความช่วยเหลือด้านนโยบาย การเรียกเก็บเงิน บัญชีโฆษณา และเรื่องอื่นๆ ครบจบ
การติดต่อถึง ทีม Meta Pro ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการได้รับเชิญเป็น พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของ Meta หรือได้รับการติดต่อโดยตรงผ่าน Meta โดยจะมีการนัดแชทหรือวิดีโอคอล ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการคำแนะนำแบบเจาะลึกในการทำโฆษณา
6. Facebook Community และกลุ่มช่วยเหลือ

นอกจากช่องทางที่เป็นทางการต่างๆ ของ Facebook แล้ว Meta ยังเปิดพื้นที่เครือข่ายกลุ่มสังคมออนไลน์(Community)ระหว่างผู้ใช้ที่สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการตั้งค่าเพจ การจัดการกลุ่ม หรือการใช้งาน Marketplace โดยคุณสามารถเข้าร่วมได้ที่ แชทของคอมมูนิตี้ เช่น กลุ่มแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเฟส ซึ่งเป็นฟอรั่มแบบเปิดที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกเข้ามาตอบและแบ่งปันคำแนะนำแทบทุกเรื่องเกี่ยวกับ Facebook ทั้งในระดับพื้นฐานและเชิงลึก
วิธีติดต่อ Facebook ที่ดีที่สุด
หากคุณคิดว่าควร Facebook อย่างไร ใช้วิธีไหนดีที่สุด? และมักได้รับการตอบกลับจริง เราแนะนำว่าควรริ่มต้นที่การรายงานปัญหาผ่านระบบภายในของ Facebook (Report a Problem) เพราะนี่คือช่องทางที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรับเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้งานโดยตรง มีลักษณะเหมือนระบบ Ticket ที่สามารถติดตามผลได้ผ่าน Support Inbox และมีพนักงานของ Meta คอยตอบกลับกรณีที่ข้อมูลครบถ้วนชัดเจน
โดยทุกคนสามารถใช้งานวิธีนี้ได้ ไม่จำกัดว่าเป็นบัญชีส่วนตัวหรือบัญชีธุรกิจ และมีระบบจัดเก็บและติดตามผลอย่างเป็นทางการ (ผ่าน Support Inbox) ซึ่งไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษหรือเขียนอีเมลอย่างเป็นทางการ เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ทั้งยังมีฟีเจอร์แนบหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอหรือวิดีโอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ปัญหาได้แม่นยำ
เพียงเขียนคำอธิบายให้กระชับ ใช้ภาษาที่สุภาพและเป็นระบบ จะสามารถเพิ่มโอกาสในการได้รับคำตอบจากทีมงานได้ย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ให้คุณหมั่นตรวจสอบ Support Inbox เพื่อดูความคืบหน้า
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าช่องทางอื่นอย่าง Live Chat หรือ Meta Pro Team จะมีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน แต่ช่องทางเหล่านั้นมักเปิดเฉพาะสำหรับบัญชีโฆษณาที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเท่านั้น ดังนั้นสำหรับผู้ใช้ทั่วไปหรือเจ้าของธุรกิจที่ยังไม่ได้รับสิทธิ์พิเศษ การใช้ฟีเจอร์รายงานปัญหาคือวิธีที่มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือมากที่สุดในปี 2025 นั่นเอง