LinkedIn แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสำหรับมืออาชีพที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยหรือไม่แน่ใจว่าจะใช้งานอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด วันนี้เราจึงจะมาอธิบาย ไขข้อข้องใจ และแนะนำวิธีการใช้งาน LinkedIn กันครับ
LinkedIn คืออะไร
LinkedIn หรือ “ลิงค์อิน” คือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสำหรับมืออาชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 850 ล้านคนจาก 200 ประเทศ LinkedIn เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถค้นหางาน สร้างเครือข่าย(คอนเนกชั่น)ทางวิชาชีพ และพัฒนาทักษะผ่านคอนเทนต์คุณภาพมากมาย ปัจจุบัน LinkedIn อยู่ภายใต้การดูแลของ Microsoft ซึ่งให้บริการทั้งแบบฟรีและแบบพรีเมียมที่มีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติม
การสร้างโปรไฟล์บน LinkedIn จะแสดงประวัติการทำงาน วุฒิการศึกษา และทักษะต่างๆ ที่คุณกรอกลงโปรไฟล์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์อื่นๆ เช่น การจัดกิจกรรม การเข้าร่วมกลุ่ม การเขียนบทความ และการแชร์เนื้อหาในรูปแบบต่างๆ ในแพลตฟอร์มได้ ปัจจุบัน LinkedIn เป็นบริษัทในเครือของ Microsoft ที่ให้บริการทั้ง LinkedIn เวอร์ชั่ฟรีและ LinkedIn แบบพรีเมียมที่มีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติม
การก่อตั้ง LinkedIn
LinkedIn ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2545 โดยคุณรีด ฮอฟฟ์แมน(Reid Hoffman) ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 พฤษภาคม 2546 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา LinkedIn ได้เติบโตจนกลายเป็นผู้นำในธุรกิจหลากหลายด้าน โดยมีรายได้จากการสมัครสมาชิก การขายโฆษณา และบริการด้านการสรรหาบุคลากร ภายใต้การนำของ CEO อย่าง ไรอัน โรสแลนสกี(Ryan Roslansky) จนกระทั่งในในวันที่ 13 มิถุนายน 2559 Microsoft ได้เข้าซื้อกิจการ LinkedIn ที่เข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์สำเร็จ ซึ่งเป็นการผนวกรวมผู้นำด้านคลาวด์และเครือข่ายด้านอาชีพระดับโลกเข้าไว้ด้วยกัน
ความสำคัญของ LinkedIn
LinkedIn มีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้คนในวงการวิชาชีพทั่วโลกเข้าด้วยกัน ด้วยจำนวนสมาชิกในระบบที่มากกว่า 850 ล้านคนจาก 200 ประเทศ โดยกว่า 61 ล้านคนใช้ LinkedIn เพื่อหางานต่อในแต่ละสัปดาห์ LinkedIn มีมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสทางวิชาชีพให้กับสมาชิกทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของตลาดแรงงานโลก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก นักศึกษา หรือผู้มองหางานเพื่อสมัครงาน ทุกคนย่อมสามารถใช้ LinkedIn เพื่อเข้าถึงเครือข่าย(คอนเนกชั่น)อย่างมืออาชีพ ตามบริษัท และกลุ่มต่างๆ ในอุตสาหกรรมที่ผู้ใช้สนใจ
LinkedIn ใช้งานอย่างไร
1. เริ่มสร้างโปรไฟล์
โปรไฟล์ที่สร้างอย่างพิถีพิถันย่อมช่วยให้คุณโดดเด่นในสายตาของผู้จ้างงาน ผู้จัดการฝ่ายบุคคล(HR) และผู้ที่อาจเป็นโอกาสในสายอาชีพของคุณ ดังนั้น จงเริ่มจากการใช้รูปโปรไฟล์ที่ดูเป็นมืออาชีพ แต่งกายสุภาพและมีความเป็นกันเอง จากนั้นเขียนหัวข้อ (Headline) ที่ดึงดูดความสนใจ โดยอธิบายตำแหน่งงานและเป้าหมายของคุณ ในส่วนเกี่ยวกับ(About) ให้เน้นจุดแข็งและความสำเร็จที่ผ่านมา รวมถึงระบุประสบการณ์การทำงาน บทบาทหน้าที่ การศึกษา ทักษะ และใบรับรองต่างๆ สุดท้าย อย่าลืมเพิ่มลิงก์ไปยังพอร์ตโฟลิโอ บล็อก หรือช่อง YouTube ของคุณเพื่อแสดงผลงานเพิ่มเติม
2. ใช้แบ่งปันเนื้อหาคุณภาพ
การโพสต์บน LinkedIn เป็นโอกาสดีในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออกถึงเชี่ยวชาญและความต้องการแบ่งปันความรู้ที่เฉียบแหลมของคุณ ดังนั้น คุณสามารถแชร์บทความที่น่าสนใจ เขียนความคิดเห็นเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่ทำอยู่ หรือแบ่งปันประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ การเพิ่มรูปภาพ วิดีโอ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้โพสต์บน LinkedIn ของคุณน่าสนใจมากขึ้น และสร้างการมีส่วนร่วมจากผู้ติดตามได้ดียิ่งขึ้น
3. สามารถสร้างคอนเนกชั่นได้
คอนเนกชั่นหรือกลุ่มเครือข่ายที่แข็งแกร่งจะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จบน LinkedIn เริ่มจากการ “เชื่อมต่อ LinkedIn” โดยแชร์บัญชีของคุณกับครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงเพื่อนร่วมงาน นอกจากนี้ควรติดตามบัญชีของเหล่าบุคคลที่น่าสนใจ อินฟลูเอนเซอร์ผู้ประกอบการ บริษัทเป้าหมาย และหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับวิชาอาชีพของคุณ เพราะการมีส่วนร่วมในกลุ่มและการแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์จะช่วยขยายเครือข่ายของคุณได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด
4. ใช้การค้นหาเพื่อเพิ่มโอกาสในการจ้างงาน
LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับการค้นหางาน คุณสามารถใช้เครื่องมือค้นหางานเพื่อหาตำแหน่งที่น่าสนใจ ศึกษาข้อมูลบริษัท และติดต่อกับผู้คนในชุมชนการจ้างงาน การตั้งค่าการแจ้งเตือนจากโพสต์ตำแหน่งงานและการเปิดให้ผู้จัดหางานติดต่อคุณได้ง่ายที่สุดเพื่อจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานที่ใช่ ลองใช้ฟีเจอร์ “Open to Work” อย่างชาญฉลาดเพื่อให้ผู้จัดหางานเห็นว่าคุณเปิดรับโอกาสใหม่ๆ
5. ใช้เพื่อติดตามข่าวสารและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
LinkedIn ไม่เพียงแต่เป็นโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการงาน แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่าสำหรับการอัพเดทข่าวสาร เทรนด์ และการพัฒนาในแวดวงธุรกิจ การติดตามบริษัท อินฟลูเอนเซอร์ และการสมัครรับจดหมายข่าวทางอีเมล์ที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้คุณทันต่อการเปลี่ยนแปลงและโอกาสใหม่ๆ ในสายอาชีพ
6. เลือกระดับการใช้งานที่เหมาะสม
LinkedIn มีทั้งบัญชีพื้นฐานที่ใช้งานฟรีและบัญชี Premium ที่มีฟีเจอร์เพิ่มเติม บัญชีพื้นฐานเหมาะสำหรับการสร้างตัวตนออนไลน์และการเชื่อมต่อเครือข่ายได้เบื้องต้น ในขณะที่บัญชี Premium มอบประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การดูว่าใครเข้าชมโปรไฟล์ของคุณ การส่งข้อความถึงผู้จัดหางานโดยตรง และการเข้าถึงคอร์สเรียนออนไลน์ ดังนั้น ลองพิจารณาเลือกระดับของบัญชี LinkedIn ที่เหมาะกับเป้าหมายและงบประมาณของคุณ
การใช้ LinkedIn อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความสม่ำเสมอและความตั้งใจ อัพเดทโปรไฟล์ของคุณเป็นประจำ มีส่วนร่วมในการสนทนาอย่างสร้างสรรค์ และใช้ภาษาที่เป็นมืออาชีพ ระมัดระวังในการแชร์ข้อมูลส่วนตัว และมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับเครือข่ายของคุณ ด้วยวิธีนี้ LinkedIn จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการพัฒนาความก้าวหน้าด้านวิชาชีพของคุณ
ข้อดีและข้อเสียของ LinkedIn ที่คุณควรรู้
ข้อดีของ LinkedIn
1. สร้างคอนเนกชั่นแบบมืออาชีพ
จุดเด่นที่สุดของ LinkedIn คือโอกาสในการสร้างคอนเนกชั่นกับมืออาชีพในหลากหลายอุตสาหกรรม คุณสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานเก่า ผู้นำในวงการ หรือแม้แต่ที่ปรึกษาที่อาจช่วยแนะนำเส้นทางอาชีพ บรรยากาศที่เป็นมืออาชีพและเปิดกว้างของ LinkedIn ทำให้การสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ เป็นเรื่องง่าย และอาจนำไปสู่โอกาสที่คุณคาดไม่ถึง
2. เครื่องมือหางานและรับสมัครงานที่ทรงพลัง
หากกำลังมองหางานใหม่ LinkedIn คือแพลตฟอร์มที่ขาดไม่ได้ เพราะ HR และบริษัทต่างๆ นิยมใช้ในการสรรหาคนเก่ง คุณสามารถตั้งการแจ้งเตือนตำแหน่งงานที่สนใจ และใช้โปรไฟล์เป็นเหมือนเรซูเม่ออนไลน์ที่แสดงผลงาน ความสำเร็จ และการรับรองจากคอนเนกชั่นของคุณ
3. สร้างแบรนด์ตัวเองได้อย่างมืออาชีพ
ในยุคดิจิทัล การมีตัวตนออนไลน์ที่น่าเชื่อถือสำคัญมาก โปรไฟล์ LinkedIn ที่ทำได้ดีจะช่วยให้คุณโดดเด่นในฐานะผู้เชี่ยวชาญในสายงาน ผ่านการแชร์บทความ แสดงความคิดเห็นเชิงลึก และอัพเดทความเคลื่อนไหวในวงการ
4. เข้าถึงอินไซต์วงการแบบเจาะลึก
LinkedIn ไม่ใช่แค่ที่สร้างคอนเนกชั่น แต่เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกชั้นดี คุณสามารถติดตามผู้นำความคิด บริษัทชั้นนำ และกลุ่มอุตสาหกรรมที่สนใจ ทำให้อัพเดทเทรนด์และพัฒนาการใหม่ๆ ในวงการได้ทันท่วงที
5. พัฒนาทักษะผ่าน LinkedIn Learning
นอกจากการสร้างคอนเนกชั่น LinkedIn ยังมี LinkedIn Learning ที่รวบรวมคอร์สออนไลน์คุณภาพ ตั้งแต่ทักษะเทคนิคอย่างการเขียนโค้ด ไปจนถึงทักษะซอฟต์สกิลต่างๆ การเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้คุณในตลาดงาน
ข้อเสียที่ต้องระวัง
1. ประเด็นความเป็นส่วนตัว
แม้จะมีประโยชน์มาก แต่การแชร์ข้อมูลบน LinkedIn ก็มาพร้อมความเสี่ยง ระวังการแชร์ข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป และอย่าลืมตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เหมาะสม โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังมองหางานใหม่ในขณะที่ยังทำงานอยู่
2. ความกดดันเรื่องจำนวนคอนเนกชั่น
หลายคนหลงติดกับดักตัวเลขคอนเนกชั่น จนลืมสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่าจริงๆ การมีคอนเนกชั่นเยอะแต่ไม่มีคุณภาพอาจไม่ช่วยอะไร และยังทำให้เสียเวลากับการจัดการคำขอเชื่อมต่อที่ไม่เกี่ยวข้อง
3. ชุดข้อมูลจำนวนมาก
ด้วยความที่มีคอนเทนต์มากมาย บางครั้งอาจรู้สึกท่วมท้นกับฟีดที่มีทั้งอัพเดต บทความ และโพสต์ต่างๆ สำคัญที่ต้องรู้จักคัดกรองและโฟกัสกับเนื้อหาที่เป็นประโยชน์จริงๆ กับเป้าหมายทางอาชีพของคุณ
4. ระวังโปรไฟล์ที่อาจเกินจริง
เหมือนโซเชียลมีเดียทั่วไป บางคนอาจแต่งเติมโปรไฟล์เกินจริง ทำให้ยากต่อการประเมินความสามารถที่แท้จริง จึงควรมีวิจารณญาณในการดูโปรไฟล์และสร้างคอนเนกชั่นใหม่ๆ
สรุปท้ายบทความ
จากประสบการณ์ของทีม Sixtygram เราพบว่า LinkedIn เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างโอกาสทางอาชีพ แต่เช่นเดียวกับทุกแพลตฟอร์ม การใช้งานอย่างมีกลยุทธ์และระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญ ควรใช้เวลาในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า พัฒนาความสัมพันธ์ที่แท้จริง และระวังเรื่องความเป็นส่วนตัว หากทำได้เช่นนี้ LinkedIn จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาความก้าวหน้าทางอาชีพของคุณอย่างแน่นอน
ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน LinkedIn หรือการทำการตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ สามารถติดต่อทีม Sixtygram ได้นะครับ เรายินดีให้คำปรึกษาเพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกดิจิทัล