AMINTRA

8 เมษายน 2024

5 Social Listening Metrics ตัววัดผล KPIs ที่นักการตลาดต้องรู้

Social Listening Metrics คือเครื่องมือในการติดตาม วิเคราะห์ และวัดผลกระทบของแบรนด์บนโซเชียลมีเดีย โดยจะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ การใช้ Social Listening Metrics จะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายและวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก การตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการวัดผลการดำเนินงานบนช่องทางออนไลน์อย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่การสื่อสารการตลาดเน้นไปที่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น สามารถให้ Insights ที่มีประโยชน์ต่อการดู Business KPIs ในภาพรวมได้

1. Hootsuite

Hootsuite

Hootsuite เป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการโซเชียลมีเดียที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการบัญชีโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ในที่เดียว ทั้งการโพสต์เนื้อหา ติดตามการมีส่วนร่วม และวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน Hootsuite เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ที่ต้องการบริหารจัดการโซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งธุรกิจ, แบรนด์, หน่วยงานภาครัฐ และแม้แต่บุคคลที่ต้องการจัดการโซเชียลมีเดียส่วนตัว มีแพ็กเกจให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตั้งแต่แพ็กเกจ Free ไปจนถึงแพ็กเกจ Enterprise ที่มีฟังก์ชันขั้นสูง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของตน ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันครบครัน สามารถจัดการและวิเคราะห์โซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์มในที่เดียว

ฟังก์ชันและคุณสมบัติหลัก

  • การจัดการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบ all-in-one ครอบคลุมทั้ง Facebook, Twitter, Instagram, LinkedIn และอื่นๆ
  • ตารางเวลาโพสต์อัตโนมัติ และสามารถโพสต์เนื้อหาข้ามแพลตฟอร์มได้
  • ติดตามการมีส่วนร่วม (Engagement) และวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
  • ระบบการจัดการทีม และการมอบหมายงาน
  • รายงานและแดชบอร์ดสำหรับติดตามผลการดำเนินงาน

ประโยชน์ของการใช้ Hootsuite

  1. บริหารจัดการโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพในที่เดียว
  2. ประหยัดเวลาด้วยการโพสต์อัตโนมัติและข้ามแพลตฟอร์ม
  3. ติดตามและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานได้อย่างละเอียด
  4. ทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างราบรื่น
  5. ปรับแต่งและกำหนดกลยุทธ์การใช้งานให้เหมาะกับธุรกิจ

ข้อดี: ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันครบครัน สามารถจัดการและวิเคราะห์โซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์มในที่เดียว

2. Brandwatch

2. Brandwatch

Brandwatch เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์และกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการและพัฒนาแบรนด์ของตนให้แข็งแกร่งขึ้น บริการหลักของ Brandwatch ประกอบด้วย การวิเคราะห์สื่อออนไลน์ (Social Media Analytics), การวิเคราะห์ข้อมูลตลาด (Market Intelligence), และการบริหารจัดการแบรนด์ (Brand Management) นอกจากนี้ยังให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มของตนเองและให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์ดิจิทัลแก่องค์กร

การใช้บริการ Brandwatch จะช่วยให้องค์กรสามารถติดตามและวิเคราะห์กิจกรรมบนโซเชียลมีเดียของแบรนด์และคู่แข่งได้อย่างครอบคลุม ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้ม และโอกาสทางธุรกิจในตลาด สามารถวางและวัดผลกลยุทธ์การบริหารจัดการแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้รับบริการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์และคำปรึกษาด้านกลยุทธ์ดิจิทัลที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ขององค์กร Brandwatch มุ่งเป้าไปที่องค์กร ธุรกิจ และแบรนด์ที่ต้องการใช้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์และการพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เพื่อยกระดับการบริหารจัดการและพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ข้อดี: ให้ข้อมูลการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและครอบคลุม สามารถตรวจสอบการกล่าวถึงแบรนด์ได้อย่างละเอียด

3. Sprout Social

3. Sprout Social

Sprout Social เป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการโซเชียลมีเดียที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการบัญชีโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้อย่างรวมศูนย์ ตั้งแต่การวางแผนและโพสต์เนื้อหา ไปจนถึงการติดตามและวิเคราะห์การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ Sprout Social มุ่งเน้นลูกค้ากลุ่มองค์กร ธุรกิจ และแบรนด์ที่ต้องการเครื่องมือบริหารจัดการโซเชียลมีเดียที่มีประสิทธิภาพและครบวงจร

การใช้ Sprout Social นั้นให้ประโยชน์หลากหลายสำหรับองค์กรและธุรกิจ โดยสามารถบริหารจัดการโซเชียลมีเดียได้ครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียว ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างและโพสต์เนื้อหาได้อย่างมีระบบ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานได้อย่างละเอียด ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางกลยุทธ์และปรับปรุงกิจกรรมบนโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ Sprout Social ยังมีฟังก์ชันการทำงานร่วมกันเป็นทีมที่ราบรื่น ช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง มอบหมายงาน และติดตามความคืบหน้าได้อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งระบบให้เข้ากับความต้องการและบริบทเฉพาะของธุรกิจ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน

ฟังก์ชันและคุณสมบัติหลัก

  1. การจัดการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบครบวงจร
    • สนับสนุนการใช้งานหลายบัญชีและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในที่เดียว เช่น Facebook, Twitter, Instagram, LinkedIn
    • เครื่องมือสร้างและวางแผนการโพสต์เนื้อหา
    • ระบบติดตามการมีส่วนร่วม (Engagement) และการตอบสนองลูกค้า
  2. การวิเคราะห์และรายงานผล
    • แดชบอร์ดและรายงานสำหรับติดตามผลการดำเนินงาน
    • เครื่องมือวัดและเปรียบเทียบผลกระทบจากกิจกรรมโซเชียลมีเดีย
    • การรายงานและวิเคราะห์แนวโน้มการมีส่วนร่วมและประสิทธิผล
  3. การทำงานร่วมกันเป็นทีม
    • ระบบการมอบหมายและจัดการงานภายในทีม
    • การอนุญาตและควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง
  4. การบูรณาการและปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการ
    • ความสามารถในการรวมกับระบบอื่นๆ เช่น CRM และอีเมล
    • การปรับแต่งฟังก์ชันและการทำงานให้เหมาะกับธุรกิจ

ข้อดี: ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันการจัดการและวิเคราะห์ที่ครอบคลุม สามารถตอบโต้กับลูกค้าได้โดยตรง

4. Sendible

https://www.sendible.com/

Sendible เป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการโซเชียลมีเดียที่มุ่งเน้นให้บริการครอบคลุมทุกกระบวนการ ตั้งแต่การสร้างและวางแผนเนื้อหา การโพสต์ข้ามแพลตฟอร์ม ไปจนถึงการติดตามและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน Sendible มุ่งเน้นไปที่องค์กร ธุรกิจ และแบรนด์ที่ต้องการใช้เครื่องมือบริหารจัดการโซเชียลมีเดียที่ครบวงจรและสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ

การใช้ Sendible นั้นให้ประโยชน์หลากหลายสำหรับองค์กรและธุรกิจ โดยสามารถบริหารจัดการกิจกรรมโซเชียลมีเดียได้ครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียว ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างและโพสต์เนื้อหาได้อย่างมีระบบ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานได้อย่างละเอียด ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางกลยุทธ์และปรับปรุงกิจกรรมบนโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ Sendible นั้นให้ประโยชน์หลากหลายสำหรับองค์กรและธุรกิจ โดยสามารถบริหารจัดการกิจกรรมโซเชียลมีเดียได้ครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียว ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างและโพสต์เนื้อหาได้อย่างมีระบบ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานได้อย่างละเอียด ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางกลยุทธ์และปรับปรุงกิจกรรมบนโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟังก์ชันและคุณสมบัติหลัก  

  1. การจัดการเนื้อหาและการโพสต์
    • เครื่องมือสร้างและวางแผนตารางการโพสต์เนื้อหาข้ามแพลตฟอร์ม
    • สนับสนุนการโพสต์เนื้อหารูปแบบต่างๆ เช่น โพสต์ข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ
    • ระบบกำหนดเวลาโพสต์แบบอัตโนมัติ
  2. การติดตามและมีส่วนร่วม
    • เครื่องมือตรวจสอบและตอบสนองการมีส่วนร่วมจากผู้ติดตาม
    • ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีกิจกรรมโต้ตอบจากผู้ติดตาม
    • ความสามารถในการส่งข้อความตอบโต้โดยตรงจากแพลตฟอร์ม
  3. การวิเคราะห์และรายงานผล
    • แดชบอร์ดและรายงานเพื่อติดตามผลการดำเนินงานอย่างละเอียด
    • เปรียบเทียบผลกระทบระหว่างแพลตฟอร์มและแคมเปญต่างๆ
    • การวิเคราะห์แนวโน้มและแนะนำแนวทางปรับปรุงกลยุทธ์
  4. การทำงานร่วมกันเป็นทีม
    • ระบบการมอบหมายงาน และควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงของทีม
    • แชทช่องทางสื่อสารภายในทีม และการอนุมัติเนื้อหาก่อนโพสต์
  5. การบูรณาการและปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการ
    • ความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบอื่น เช่น CRM และ Google Analytics
    • การกำหนดค่าและปรับแต่งระบบให้เข้ากับวิธีการทำงานของแต่ละองค์กร

ข้อดี: ครอบคลุมทั้งการวิเคราะห์ การจัดการ และการนำเสนอรายงาน ทำให้การใช้งานมีความครบวงจร

5. Social Mention

https://www.socialmention.com/

Social Mention เป็นเครื่องมือค้นหาและติดตามข้อมูลออนไลน์ที่กำลังเป็นที่พูดถึงบนโซเชียลมีเดีย โดยจะค้นหาและรวบรวมการกล่าวถึงแบรนด์, ผลิตภัณฑ์ หรือประเด็นต่างๆ จากเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากมาย เช่น Twitter, Facebook, YouTube, Google Blog ฯลฯ

ฟังก์ชันและคุณสมบัติหลัก

  • ค้นหาการกล่าวถึงแบรนด์, ผลิตภัณฑ์ หรือหัวข้อที่กำลังเป็นที่พูดถึงบนโซเชียลมีเดีย
  • ติดตามความถี่และแนวโน้มของการกล่าวถึง ตลอดจนการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน
  • วิเคราะห์อารมณ์ความรู้สึก (Sentiment) ของการกล่าวถึงว่าเป็นบวก ลบ หรือกลาง
  • ค้นหาและตรวจสอบผู้มีอิทธิพล (Influencers) ในหัวข้อที่สนใจ
  • ส่งออกข้อมูลในรูปแบบ CSV เพื่อนำไปวิเคราะห์เพิ่มเติม

ประโยชน์ของการใช้ Social Mention

  1. ติดตามการกล่าวถึงแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือประเด็นที่สนใจอย่างต่อเนื่อง
  2. วิเคราะห์ความรู้สึกและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน (Sentiment & Engagement)
  3. ค้นหาและระบุผู้มีอิทธิพลในธุรกิจหรือตลาดเป้าหมาย
  4. นำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารและการตลาดบนโซเชียลมีเดีย
  5. ปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย  

  • ธุรกิจและแบรนด์ที่ต้องการติดตามการกล่าวถึงและความรู้สึกของผู้บริโภค
  • นักการตลาดและผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดียที่ต้องการวิเคราะห์ข้อมูลทางดิจิทัล
  • หน่วยงานและองค์กรที่ต้องการติดตามการรับรู้และประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจในสาธารณะ

ข้อดี: เป็นเครื่องมือฟรี สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีงบประมาณจำกัด

ข้อควรระวังในการใช้ Social Listening Metrics

แม้ว่า Social Listening Metrics จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากในการวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย แต่นักการตลาดก็ต้องระมัดระวังในการใช้งานเครื่องมือนี้เช่นกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ประเด็นที่ต้องระวังในการใช้ Social Listening Metrics มีดังนี้:

  • 1. ความครอบคลุมของข้อมูล: แม้ว่าเครื่องมือ Social Listening Metrics จะสามารถเก็บข้อมูลจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่ก็อาจจะไม่ครอบคลุมทุกช่องทาง ดังนั้น นักการตลาดต้องตรวจสอบว่าเครื่องมือนั้นสามารถเข้าถึงช่องทางการสื่อสารที่กลุ่มเป้าหมายใช้อยู่จริงหรือไม่
  • 2. ความถูกต้องของข้อมูล: ข้อมูลที่ได้จาก Social Listening Metrics มักจะเป็นข้อมูลที่แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของผู้ใช้งาน ซึ่งอาจมีความคลาดเคลื่อนหรือไม่ตรงกับความเป็นจริง ดังนั้น นักการตลาดต้องใช้ความระมัดระวังในการตีความและวิเคราะห์ข้อมูล
  • 3. ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี: เครื่องมือ Social Listening Metrics ยังมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เช่น การวิเคราะห์ความรู้สึกอย่างอัตโนมัติ การจัดหมวดหมู่ของข้อมูล หรือข้อจำกัดด้านภาษาและการแปลผล นักการตลาดต้องตระหนักถึงข้อจำกัดเหล่านี้ และใช้เครื่องมืออย่างระมัดระวัง
  • 4. การตีความข้อมูลอย่างระมัดระวัง: ข้อมูลจาก Social Listening Metrics สามารถให้ข้อมูลที่มีประโยชน์มาก แต่นักการตลาดต้องระมัดระวังในการตีความและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการวางกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อให้การใช้งานเครื่องมือ Social Listening Metrics เกิดประโยชน์สูงสุด นักการตลาดควรคำนึงถึงข้อควรระวังเหล่านี้ และใช้เครื่องมือควบคู่กับการวิจัยและวิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติม อีกทั้งต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้รับ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและสร้างผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

TAG ที่เกี่ยวข้อง:
admin
ผู้เขียน AMINTRA CHAIPAK

หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Sixtygram ดำรงต่ำแหน่งทั้ง CEO และนักการตลาดผู้เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ด้าน Digital Marketing จะไม่มีวันหยุดนิ่ง และจะปรับเปลี่ยในทุกๆวัน การแสวงหาความรู้เพื่อยอดต่อในธุรกิจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด