AMINTRA

12 พฤษภาคม 2024

Rebranding คืออะไร? รีแบรนด์ยังไงให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

Rebranding คือ การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัยและดึงดูดลูกค้ามากขึ้น ซึ่งอาจครอบคลุมถึงการเปลี่ยนแปลงชื่อ โลโก้ สโลแกน วิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์การตลาด และ Ci การรีแบรนด์เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ก็มีประโยชน์มากมายหากทำได้สำเร็จ

Rebranding Strategy มีอะไรบ้าง

Rebranding Strategy มีอะไรบ้าง

Rebranding แปลว่า การรีแบรนด์เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การรีแบรนด์ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการรีแบรนด์ให้ชัดเจน ว่าต้องการสร้างภาพลักษณ์ใหม่เพื่ออะไร ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายใดบ้าง หรือต้องการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างไร

จากนั้นจึงดำเนินการวิเคราะห์ตลาดและคู่แข่งอย่างละเอียด โดยศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของแบรนด์ปัจจุบัน ตลอดจนประเมินกลยุทธ์และตำแหน่งทางการตลาดของคู่แข่งขัน อีกทั้งต้องสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าทั้งปัจจุบันและกลุ่มเป้าหมายใหม่ เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพและปริมาณจากการสัมภาษณ์ การสำรวจแบบสอบถาม และการสนทนากลุ่ม ซึ่งจะนำมาใช้ในการกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ของแบรนด์ใหม่

หลังจากนั้นจึงเป็นขั้นตอนการพัฒนาแนวคิดและกลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์ใหม่ โดยนิยามคุณค่าหลักและจุดขายเฉพาะ สร้างวิสัยทัศน์ พันธกิจ และตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจน พร้อมกำหนดกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการผ่านช่องทางต่างๆ ควบคู่ไปกับการออกแบบองค์ประกอบทางกายภาพของแบรนด์ ได้แก่ การพัฒนาชื่อแบรนด์ใหม่ การออกแบบโลโก้ สี และรูปแบบกราฟิก รวมถึงการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ เว็บไซต์ และสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับแนวคิดแบรนด์ใหม่

สุดท้ายเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว จึงเป็นช่วงของการสื่อสารแบรนด์ใหม่อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง โดยเปิดตัวและประชาสัมพันธ์แบรนด์ใหม่ผ่านกิจกรรมและแคมเปญพิเศษ สร้างการรับรู้และความคุ้นเคยในหมู่ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมติดตามและปรับปรุงกลยุทธ์การสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความน่าสนใจของแบรนด์ไว้ได้ ด้วยการวางแผนกลยุทธ์อย่างครบวงจรนี้ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่แข็งแกร่งและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง นำไปสู่ความสำเร็จของการรีแบรนด์ในที่สุด

กระบวนการ Rebranding

  1. กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการรีแบรนด์ให้ชัดเจน
    • ระบุสาเหตุที่ต้องรีแบรนด์ เช่น ต้องการภาพลักษณ์ใหม่ ขยายกลุ่มเป้าหมาย หรือตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของตลาด
    • กำหนดเป้าหมายที่ต้องการบรรลุจากการรีแบรนด์ เช่น เพิ่มยอดขาย สร้างความแตกต่าง หรือปรับตำแหน่งทางการตลาด
  2. วิเคราะห์ตลาดและคู่แข่ง
    • ศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อค้นหาโอกาสและช่องทางการตลาดใหม่ๆ
    • วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของแบรนด์ปัจจุบัน
    • ประเมินกลยุทธ์และตำแหน่งทางการตลาดของคู่แข่งขัน
  3. สำรวจความคิดเห็นของลูกค้า
    • สำรวจทัศนคติ ความพึงพอใจ และความคาดหวังของลูกค้าปัจจุบันและกลุ่มเป้าหมายใหม่
    • รวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพและปริมาณจากการสัมภาษณ์ การสำรวจแบบสอบถาม และการสนทนากลุ่ม
    • นำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ของแบรนด์ใหม่
  4. พัฒนาแนวคิดและกลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์ใหม่
    • นิยามคุณค่าหลักและจุดขายเฉพาะของแบรนด์ใหม่
    • สร้างวิสัยทัศน์ พันธกิจ และตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจน
    • กำหนดกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
  5. ออกแบบองค์ประกอบทางกายภาพของแบรนด์
    • พัฒนาชื่อแบรนด์ใหม่ที่มีความหมาย จดจำได้ง่าย และแสดงถึงตัวตนของแบรนด์
    • ออกแบบโลโก้ สี และรูปแบบกราฟิกใหม่ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์
    • ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ เว็บไซต์ และสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับแนวคิดแบรนด์ใหม่
  6. สื่อสารแบรนด์ใหม่อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง
    • เปิดตัวและประชาสัมพันธ์แบรนด์ใหม่ผ่านกิจกรรมและแคมเปญพิเศษ
    • สร้างการรับรู้และความคุ้นเคยกับแบรนด์ใหม่ในหมู่ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ
    • ติดตามและปรับปรุงกลยุทธ์การสื่อสารอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความน่าสนใจของแบรนด์

ประโยชน์ของการ Rebranding

การรีแบรนด์หรือการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัยและน่าสนใจมากขึ้นนั้น มีประโยชน์หลากหลายด้านสำหรับธุรกิจ เริ่มจากการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่สดใหม่และทันสมัย ช่วยดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ๆ พร้อมเพิ่มความน่าสนใจและความทันสมัยให้กับแบรนด์ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการรับรู้และจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การรีแบรนด์ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ช่วยสร้างความแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่ง รวมถึงดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ให้หันมาสนใจธุรกิจของเรามากขึ้น

อีกประโยชน์หนึ่งของการรีแบรนด์คือการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องและตอบโจทย์สถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ธุรกิจสามารถปรับทิศทางและรูปแบบการดำเนินงานให้ทันสมัย ตอบรับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้แบรนด์ยังคงเป็นที่น่าสนใจและอยู่ในใจของผู้บริโภคตลอดไป นอกจากนี้การรีแบรนด์ยังสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความผูกพันของพนักงานภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี ช่วยให้พนักงานรู้สึกภาคภูมิใจและตระหนักถึงการเติบโตของแบรนด์ ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของการรีแบรนด์จึงนับว่ามีมากมายหากดำเนินการอย่างถูกวิธี มีการวางแผนอย่างรอบคอบและรัดกุม การรีแบรนด์จะช่วยฟื้นฟูจิตวิญญาณของแบรนด์ สร้างความแข็งแกร่งและเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน เหนือกว่าคู่แข่งขันในตลาด

ตัวอย่างแบรนด์ดัง Rebranding

1. KIA

ในปี 2021 ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีรายนี้ตัดสินใจเลือกใช้สิ่งที่เรียกว่า “โลโก้ที่แตกต่างอย่างมาก” สโลแกนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน (ตอนนี้เป็น “การเคลื่อนไหวที่สร้างแรงบันดาลใจ”) เช่นเดียวกับชื่อของบริษัท (KIA ทิ้งคำว่า “มอเตอร์” ออกจากชื่อเพื่อแสดงการเปลี่ยนผ่านสู่การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ) ในฐานะซีอีโอของบริษัท โฮซองซง กล่าวว่า

โลโก้ใหม่ของ Kia แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเป็นไอคอนแห่งการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม”

นอกเหนือจากการรีแบรนด์แล้ว KIA ยังเปลี่ยนแนวทางในการออกแบบรถยนต์อีกด้วย ในอดีต Kias ถือเป็นการออกแบบที่อนุรักษ์นิยม (ไม่ต้องพูดว่า “น่าเบื่อ”) ปัจจุบันเป็นรถที่ดูดีและโดดเด่นซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจบนท้องถนนได้อย่างแน่นอน โลโก้ใหม่ของ KIA มีลักษณะคล้ายลายเซ็นที่เขียนด้วยลายมือ และตัวอักษร K และ A ที่ทำมุมดึงดูดสายตาของทุกคนในทันที Kia กล่าวว่าโลโก้ใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความทะเยอทะยานอันสูงส่งของบริษัท และเมื่อพูดถึงแรงบันดาลใจอันสูงส่ง ลองดูงานที่ Kia จัดขึ้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเฉลิมฉลองการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ครั้งแรก

image

2. Volkswagen

Volkswagen ได้ประกาศโลโก้ใหม่พร้อมดีไซน์สองมิติแบนๆ เมื่อเดือนกันยายน 2019 ระหว่างงาน International Motor Show ในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ในเวลาเดียวกัน Volkswagen ได้เปิดตัวรถยนต์ ID.3 ไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นใหม่ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญประกาศเปลี่ยนชื่อแบรนด์ครั้งใหญ่ที่เรียกว่า “New Volkswagen” เหตุผลหลักในการรีแบรนด์ก็คือการปฏิวัติการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า VW มีความทะเยอทะยานที่จะเป็นอันดับหนึ่ง แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ภายในปี 2568 โดยมีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกมากกว่า 20 คัน และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 1 ล้านคัน และต้องขอบคุณระบบนิเวศดิจิทัล “Volkswagen We” ใหม่ พวกเขาต้องการให้รถยนต์ของพวกเขากลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อโดยสมบูรณ์ ผู้ให้บริการมือถือ และแม้แต่ห้องนั่งเล่น

ตามที่บริษัทระบุ การรีแบรนด์ครั้งนี้เป็นการแนะนำ “โลกใหม่ของ Volkswagen ที่ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการเชื่อมต่อจะทำให้การสื่อสารกับลูกค้าขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้น เป็นส่วนตัวมากขึ้น และมีความเฉพาะตัวมากขึ้น โลโก้ใหม่ของ VW ยังคงไว้ซึ่งองค์ประกอบที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและใช้งานได้ง่ายขึ้นในพื้นที่ดิจิทัล

image 2

image 4
TAG ที่เกี่ยวข้อง:
admin
ผู้เขียน AMINTRA CHAIPAK

หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Sixtygram ดำรงต่ำแหน่งทั้ง CEO และนักการตลาดผู้เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ด้าน Digital Marketing จะไม่มีวันหยุดนิ่ง และจะปรับเปลี่ยในทุกๆวัน การแสวงหาความรู้เพื่อยอดต่อในธุรกิจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด