สำหรับการทำ SEO การศึกษาปัจจัยที่จะทำให้อันดับของเว็บไซต์(Ranking)ดียิ่งขึ้นถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด โดยการทำ Backlink เป็นหนึ่งในปัจจัย(ไม่ใช่ทั้งหมด)ที่จะเป็นประโยชน์ในการทำ SEO แก่เว็บไซต์ทุกประเภท ทำให้ในวันนี้ Sixtygram จะกล่าวถึงความสำคัญของ Backlink และวิธีสร้างลิงก์ที่ครบถ้วนและถูกต้องที่สุดกัน
สำหรับในเรื่อง Backlink เราจะกล่าวถึง
Backlink คือ ?
Backlink คือ ลิงก์ที่ส่งออกมาจากเว็บไซต์หนึ่งและเข้าไปยังอีกเว็บไซต์หนึ่ง คล้ายกับการอ้างอิงและให้ความน่าเชื่อถือแก่เว็บไซต์ที่ได้รับลิงก์มา โดยยิ่งเว็บไซต์ได้รับลิงก์(Backlink)มาก ตามทฤษฎีของนัก SEO เชื่อว่าจะยิ่งมีอันดับตามหน้าค้นหาของเครื่องมือค้นหา(SERP)ดียิ่งขึ้นเท่านั้น
ตัวอย่าง: Backlink จากเว็บไซต์ Sixtygram ที่สามารถส่งไปสู่เว็บไซต์ Seoreviewtools ได้
ความสำคัญของ Backlink
โดยพื้นฐานแล้วเว็บไซต์หนึ่งจะมอบลิงก์ที่ส่งออกไปภายนอกเว็บไซต์ โดยมีเจตนาจะบอกเครื่องมือค้นหา(Seach Engine)ว่า “เนื้อหานี้มีคุณค่า น่าเชื่อถือ และมีประโยชน์” ดังนั้นยิ่งเว็บไซต์ของคุณได้รับลิงก์กลับมามากเท่าใด เว็บไซต์ของคุณก็จะยิ่งมีอันดับใน Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ มากขึ้นเท่านั้น อ้างอิงจากอัลกอริธึมของ Google (ระบบวิเคราะห์ลิงก์และเพจแรงก์) ที่ Google จะทำความเข้าใจว่าหน้าเว็บนั้น ๆ ลิงก์กันอย่างไร
ตัวอย่างเช่น เว็บสถาบันทางการศึกษา(ac.th) หรือเว็บหน่วยงานราชการ(go.th)ถือเป็น Backlink ที่ได้รับความน่าเชื่อถือระดับสูง(Domain Authority)ที่สามารถมอบคะแนนให้กับเว็บไซต์ที่ถูกรับรองได้ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การใช้ Backlink เป็นเรื่องที่นัก SEO ทำกันมาอย่างยาวนาน หากแต่วิธีการทำ Backlink ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับนโยบายสแปมลิงก์จาก Google และ Seach Engine อื่นๆ นั้นเป็นเรื่องที่ต้องเข้มงวด
5 ข้อสังเกต Backlink ที่ดี
การจะเข้าใจเรื่อง Backlink ได้ครบถ้วนที่สุด คุณจะต้องเข้าใจถึงวิธีการสังเกต Backlink อย่างมีแบบแผน เนื่องจากลิงก์ขาเข้าทั้งหมดในเว็บไซต์ไม่ได้แปลว่าจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป หากคุณอยากให้ Backlink ส่งผลดีต่ออันดับบนหน้าค้นหาตามเป้าหมายที่ต้องการ สิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดคือ Backlink ที่มีคุณภาพที่ได้รับมาเพียงไม่กี่ลิงก์ซึ่งมีคุณค่ามากกว่าลิงก์แสปมนับล้านที่ไหลเข้ามา ซึ่งสามารถปฎิบัติตามข้อสังเกต Backlink ที่ดีได้ ดังนี้
1. Backlink จากเว็บไซต์ที่คะแนนดี
การรับลิงก์จากเว็บไซต์ขนาดใหญ่และน่าเชื่อถือย่อมดีกว่า Backlink จากเว็บที่พึ่งสร้างหรือเว็บขนาดเล็กที่ไร้คนเข้าชม หลักคิดนี้ทำให้ก่อเกิด ค่าคะแนนเว็บไซต์(Domain Authority) กล่าวคือ ยิ่งเว็บไซต์มีคะแนน Authority มากเท่าไหร่ ก็สามารถเพิ่มคะแนนให้กับเว็บไซต์ที่ได้รับ Backlink มากตามไปด้วย ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบคะแนนเว็บไซต์ได้เป็นค่า DR หรือ UR ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ เช่น Moz, Ahrefs, Semrush หรือ Ubersuggest
2. ตรวจสอบ Anchor Text ของลิงก์
Anchor Text คือ ข้อความส่วนที่ Seach Engine มองเห็นได้ในลิงก์(Backlink) โดยนัก SEO ที่รับทำ Backlink มักจะแทรกถ้อยคำสำคัญ(Keyword)ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือตามเนื้อหาของเว็บไซต์ที่ส่งลิงก์ออก ทำให้เกิดโอกาศที่ผู้ใช้งานจะคลิกลิงก์นั้น ๆ โดย Seach Engine จะทำการประมวลผลตามระบบเพจแรงก์ซึ่งส่งผลต่ออันดับที่ดีขึ้นของเว็บไซต์ที่รับลิงก์ตามมา
อย่างไรก็ตาม การทำ Anchor Text บน Backlink นั้นมีข้อควรระวัง คือ การใช้คำ(Keyword)ที่ซ้ำกันจำนวนมากในลิงก์ที่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่งจะส่งผลต่อการละเมิดหลักเกณฑ์สแปมตามมา ดังนั้น การใส่ Anchor Text ในลิงก์ควรใช้อย่างระมัดระวังและใช้เท่าที่จำเป็นตามความเกี่ยวโยงของเนื้อหาภายในเว็บไซต์เท่านั้น
3. ประเภทของเว็บไซต์ที่ส่งลิงก์
เมื่อเกิดการเชื่อมโยงกันของ Backlink ระบบอัลกอริธึมของ Google จะตรวจสอบทันทีที่พบว่าเว็บไซต์ที่ส่งลิงก์ออกและรับลิงก์เข้านั้นมีความเกี่ยวโยงกันของลิงก์อย่างไร ตามระบบวิเคราะห์ลิงก์ ดังนั้น หากคุณได้รับ Backlink จากเว็บภาษารัสเซีย หากแต่คุณเป็นเว็บไซต์ภาษาไทย เว็บไซต์ธุรกิจสีเทา เว็บประเภทบล็อกสแปม(ละเมิดนโยบาย) แม้จะได้รับ Backlink มาในจำนวนที่มาก หากแต่ประเภทของเว็บไซต์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเว็บไซตืของคุณ นั่นย่อมเป็น Backlink ที่แย่และเป็นอัตรายต่อการจัดอันดับของ Seach Engine ได้
4. ต้องเป็นลิงก์ Dofollow
ลิงก์ Dodollow เป็นเครื่องหมายที่บอกแก่ Google และ Seach Engine อื่น ๆ ว่าผู้เขียนได้จงใจให้ระบบวิเคราะห์ลิงก์และเพจแรงก์ติดตามเพื่อหาความเชื่อมโยงของลิงก์ได้ซึ่งจะส่งผลต่อการจัดอันดับในที่สุด ดังนั้น ตรวจสอบให้มั่นใจว่า Backlink ที่เว็บไซต์คุณได้รับคือ Dofollow แทนที่จะเป็น Nofollow ที่ถูกตั้งค่าไม่ส่งค่าคะแนนความน่าเชื่อถือไปยังเว็บไซต์ที่ถูกกล่าวถึงเลย
Dofollow
หมายถึง ให้ Robot ของ Search Engine ไล่ตาม Link นี้ไปยังเว็บเป้าหมาย สร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บเเป้าหมายได้มากกว่า
Nofollow
หมายถึง ไม่ให้ Robot ของ Search Engine ไล่ตาม Link นี้ไปยังเว็บเป้าหมาย ซึ่งส่งผลในเรื่องของความน่าเชื่อถือไม่มากนัก
5. การรับลิงก์จากเว็บไซต์เดิมซ้ำ
การได้รับ Backlink จากเว็บไซต์อื่นถือเป็นเรื่องที่ดีต่อ SEO แต่หากเว็บไซต์ได้รับ Backlink จากเว็บไซต์เดิมซ้ำซ้อนในจำนวนมากจะส่งผลให้ค่าคะแนนเว็บไซต์(Domain Authority)ของเว็บที่ส่งออกลิงก์มีค่าลดลง กล่าวคือ การได้รับ “ลิงก์จำนวนมากจากเว็บไซต์เดียว” และถูกส่งออกบ่อยครั้งเป็นสิ่งที่ทำให้ Backlink นั้นมีคุณภาพแย่ลงแม้เว็บไซต์ต้นทางจะมีคะแนนความน่าเชื่อถือสูงก็ตาม
วิธีสร้าง Backlink ให้มีคุณภาพ
สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์
หนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดและเป็นประโยชน์มากที่สุดในการได้รับ Backlink ที่มีคุณภาพคือ เว็บไซต์ที่ถูกกล่าวถึงต้องมีคุณค่าแก่การชี้ลิงก์ออกไป เนื้อหาประเภทบทความความรู้ขั้นสูง Ebook วีดีโอ และ ความเห็นหรือประสบการณ์ของผู้ได้รับความน่าเชื่อถือ มักเป็นเนื้อหาที่ได้รับ Backlink โดยธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งหลักการลิงก์ที่เป็นธรรมชาติ(Organic Backlink)เช่นนี้ เป็นแนวคิดพื้นฐานหลักของอัลกอริธึม Google ในการพัฒนาระบบลิงก์ระหว่างเว็บไซต์ที่แท้จริง
ห้ามซื้อ Backlink เด็ดขาด
ปัจจุบันได้มีบริการขาย Backlink จำนวนมากตามเว็บไซต์ฟรีแลนซ์ ซึ่งมีราคาถูกทั้งยังมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ทำงานโดยใช้โปรแกรมอัตโนมัติเพื่อสร้างลิงก์ไปยังเว็บไซต์ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว หากแต่การซื้อ Backlink นั้นผิดนโยบายสแปมลิงก์สำหรับหลักเกณฑ์ Google Web Search ซึ่งเว็บไซต์ที่ซื้อ Backlink จะถูกลงโทษโดยการลดหรือปิดกั้นการแสดงผลบนหน้าค้นหาของ Google ทันทีที่ถูกตรวจพบ ในกรณีที่หากคุณซื้อ Backlink ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงการถูกตรวจพบว่าเป็นแสปมได้ Backlink ราคาถูกมักถูกถอดออก และส่งผลต่ออันดับ SEO ของคุณที่แย่ลงในท้ายที่สุด
ข้อยกเว้น Google จะไม่ลงโทษผู้ซื้อ Backlink หากลิงก์ดังกล่าวมีการตั้งค่าเครื่องหมาย Nofollow หรือ sponsored ไว้ (ลิงก์ประเภท Nofollow และ Sponsored จะไม่ส่งผลใด ๆ ด้าน SEO ต่อระบบจัดอันดับเว็บไซต์)
สร้างพันธมิตรทางเว็บไซต์
ทิ้งเพื่อนทิ้งฝูง แล้วจะบินสูงได้อย่างไร คำคมนี้ใช้กับการทำ Backlink ที่มีคุณภาพได้เช่นกัน การติดต่อพันธมิตรทางเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจประเภทเดียวกันถือเป็นสิ่งสำคัญ คุณอาจเขียน Email สักฉบับเพื่อเสนอตัวขอพื้นที่ลงบทความที่น่าสนใจและเกี่ยวโยงทั้งในเนื้อหาของเว็บไซต์คุณและพันธมิตร มีเป้าหมายเพื่อสร้าง Backlink นั่นเป็นสิ่งที่ระบบเครื่องมือค้นหาต้องการมากที่สุด การร่วมมือกันระหว่างเว็บไซต์เพื่อผลักดันเนื้อหาคุณภาพสูงเพื่อผู้อ่านจะทำให้อันดับเว็บไซต์ของคุณดีขึ้นเป็นรางวัลตอบแทน
สืบหาและแทนที่ลิงก์
วิธีนี้คล้ายกับการสร้างพันธมิตรทางเว็บไซต์ คุณจำเป็นต้องใช้เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์เพื่อตรวจสอบลิงก์เสีย(Broken Backlink)ของเว็บไซต์ที่มีประเภทเกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ จากนั้นติดต่อเพื่อเสนอตัวแทนลิงก์ที่เสียหายเหล่านั้น สิ่งที่ท้าทายคือคุณต้องสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์เพื่อเข้าไปแทนที่ลิงก์ที่เสียหายเมื่อพบบนเว็บไซต์อื่น ซึ่งหลายเว็บไซต์มักยินดีมอบ Backlink ให้เพื่อตอบแทนการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี
Guest Post
Guest Post คือ การได้รับคำเชิญเป็นแขกเพื่อเขียนบทความในนามของเว็บไซต์ตนเองภายใต้หมวดหมู่ที่ถูกกำหนด เช่น ผ่านบทสัมภาษณ์ ข่าว หรือความรู้เฉพาะทาง หากแต่ในปัจจุบันมักพบเห็นได้ยากขึ้น เนื่องจากหลายเว็บไซต์ Guest Post ที่ให้เผยแพร่ฟรี มักถูกโจมตีด้วยบทความและคอมเมนต์แสปม(เนื้อหาที่ไม่เป็นประโยชน์) อย่างไรก็ตาม Guest Post ยังถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสร้าง Backlink ได้เสมอ ดังนั้น ลองติดต่อสำนักข่าว สื่อออนไลน์ หรือรายการสัมภาษณ์ที่มีเว็บไซต์เกี่ยวข้องกับประเภทธุรกิจคุณให้มาทำการตลาดแก่เว็บไซต์บ้าง นั่นอาจเป็นผลดีต่อ SEO โดยประหยัดแรงของคุณได้เยอะกว่าที่คิด
ทำรูปภาพที่เป็นประโยชน์
การสร้างรูปภาพที่เป็นประโยชน์ต่อผู้พบเห็นและสื่อความหมายได้ชัดเจน จะทำให้เว็บไซต์ของคุณได้รับ Backlink ที่ง่ายดาย เหตุเพราะนัก SEO หลายท่านมักเลือกใช้รูปภาพจากการค้นหาผ่าน Google Image เพื่อประกอบเนื้อหา โดยการถูกดาวน์โหลดภาพไปใช้จะมีการให้เครดิตหรืออ้างอิงเป็น Backlink แก่เว็บไซต์เจ้าของลิขสิทธ์รูปภาพเสมอ เราแนะนำให้ทำภาพ อินโฟกราฟิก(infographics)ที่เป็นประโยชน์และหมั่นอัพเดทเนื้อหาในภาพอยู่เสมอ
ส่อง Backlink จากคู่แข่ง
หากไม่แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณควรได้รับ Backlink ประเภทใด จากแหล่งไหน และต้องการจำนวนมากเท่าไหร่ การสืบค้นจากเว็บไซต์คู่แข่งหรือพันธมิตรในธุรกิจเดียวกันจะทำให้เห็นภาพรวมยิ่งขึ้น ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ เช่น Backlink Checker เพื่อวิเคราะห์ว่า Backlink จากเว็บไซต์อื่นที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์ตนเองมาจากแหล่งใด และติดต่อไปยังเว็บไซต์ที่มอบลิงก์ ลองตรวจสอบเนื้อหาที่มอบ Backlink จากนั้นคุณจะรู้ว่าแผนการสร้าง Backlink ของคุณควรเป็นไปในทิศทางใด