Target market คือ การระบุเป้าหมายทางการตลาดหรือกลุ่มผู้บริโภคที่มีโอกาสเป็น Target Customer (ลูกค้า) มากที่สุด โดยการวิเคราะห์ข้อมูลทางประชากรศาสตร์, จิตวิทยา, ภูมิศาสตร์, พฤติกรรม และความต้องการของลูกค้า เพื่อตอบสนองและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยผลิตภัณฑ์หรือบริการ การกำหนดกลุ่มตลาดเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อดึงดูดฐานลูกค้าและสร้างผลกำไรสูงสุด Sixtygram จะนำเสนอวิธีการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
กลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับ Target Market
![กลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับ Target Market](https://sixtygram.com/wp-content/uploads/2024/03/Screenshot-2567-03-17-at-05.09.28.png)
วิธีการที่ดีที่สุดในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้เกิดการดึงดูด Audience ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการใช้กระบวนการ STP Marketing หรือที่รู้จักกันในนาม ‘Segmentation‘ ‘Targeting‘ และ ‘Positioning‘ หรือสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ส่วนหลักๆ ได้แก่
- การวิเคราะห์ตลาด (Market Analysis) เพื่อทำการศึกษาและวิเคราะห์ขนาด โครงสร้าง แนวโน้ม และการเติบโตของตลาดโดยรวม และระบุส่วนแบ่งการตลาด (Market Segments) ต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาดนั้น
- การแบ่งส่วนตลาด (Market Segmentation) คือ แบ่งตลาดออกเป็นกลุ่มย่อยๆ ตามลักษณะประชากรศาสตร์ ภูมิศาสตร์ พฤติกรรม และปัจจัยจิตวิทยา เพื่อวิเคราะห์ลักษณะ ขนาด และศักยภาพของแต่ละส่วนแบ่งตลาด
- การเลือกตลาดเป้าหมาย (Target Market Selection) คือ ประเมินความน่าสนใจของแต่ละทาเก็ตของส่วนแบ่งตลาด โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น Market size, อัตราการเติบโต, ระดับการแข่งขัน, ผลกำไรที่คาดหวัง และเลือกส่วนแบ่งตลาดที่มีศักยภาพและเหมาะสมที่สุดให้เป็นตลาดเป้าหมายของธุรกิจ
- การกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์ (Positioning) คือ หลังเลือกกลุ่มเป้าหมายแล้ว ต้องกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อสร้างคุณค่าและจุดขายที่โดดเด่นให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
- พัฒนากลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย และการส่งเสริมการตลาด ให้สอดคล้องและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ
เมื่อได้กลยุทธ์ทางการตลาดในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกใช้ Direct หรือ Indirect Marketing ซึ่งมีความสำคัญมาก
ความสำคัญของ Direct Marketing และ Indirect Marketing
![ความสำคัญของ Direct Marketing และ Indirect Marketing](https://sixtygram.com/wp-content/uploads/2024/03/DALL·E-2024-03-17-05.02.30-A-split-image-depicting-the-concepts-of-Direct-Marketing-and-Indirect-Marketing.-On-the-left-side-for-Direct-Marketing-illustrate-a-close-up-interac.webp)
การแบ่งการสื่อสารการตลาดออกเป็น Direct Marketing และ Indirect Marketing นั้นมีความสำคัญกับการกำหนดตลาดกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจาก Direct Marketing คือ การสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายแบบทางตรง โดยใช้ช่องทางต่างๆ เช่น จดหมายตรง อีเมล โทรศัพท์ เป็นต้น สิ่งนี้จะช่วยให้การสื่อสารถึงมือกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด แต่ในทางกลับกัน Indirect Marketing คือ การตลาดทางอ้อมที่จะเน้นการสื่อสารผ่านสื่อมวลชน เช่น โฆษณาทางโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ เป็นต้น ซึ่งจะสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างกว้างๆ
ดังนั้นเมื่อธุรกิจได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว การเลือกใช้ Direct หรือ Indirect Marketing จะมีความสำคัญ ดังนี้
1. Direct Marketing เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และธุรกิจมีฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อสื่อสารได้อย่างตรงกลุ่ม
2. Indirect Marketing เหมาะกับกรณีที่กลุ่มเป้าหมายมีขนาดใหญ่และกระจายอยู่กว้าง อาจใช้รวมกับ Direct Marketing เพื่อเพิ่มการรับรู้ในวงกว้าง
3. บางธุรกิจอาจเลือกใช้ผสมผสานทั้ง Direct และ Indirect เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยระบุช่องทางหลักที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม
ตลาดกลุ่มเป้าหมายมีใครบ้าง
การสร้างกลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำนั้น ต้องเริ่มต้นด้วยการกำหนดตลาดกลุ่มเป้าหมาย (Target Market) ให้ชัดเจนก่อน ซึ่งอาจแบ่งได้หลากหลายกลุ่มตามปัจจัยต่างๆ ดังนี้
กลุ่มเป้าหมายตามลักษณะประชากรศาสตร์ (Demographics) เพศ อายุ รอบรู้ว่า ตลาดกลุ่มเป้าหมายทางประชากรอย่างผู้หญิงวัยทำงาน ครอบครัวรายได้ปานกลาง หรือผู้สูงอายุ มีความแตกต่างไปจากกัน
กลุ่มเป้าหมายตามภูมิศาสตร์ (Geographic) ไลฟ์สไตล์คนเมือง-ชนบท ตลาดกลุ่มเป้าหมายตามภูมิศาสตร์ นำเสนอสินค้าเจาะจงพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคในเมือง ชุมชนเล็กๆ หรือนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
กลุ่มเป้าหมายตามจิตวิทยาและรูปแบบการดำเนินชีวิต (Psychographics & Lifestyles) แฟนคลับคนรักสุขภาพ คนค้นพบตัวเองอยู่ในกลุ่มเป้าหมายจิตวิทยา มุ่งเจาะความสนใจ ทัศนคติ และค่านิยมการดูแลสุขภาพ
กลุ่มเป้าหมายตามพฤติกรรม (Behavioral) สังคมก้มหน้าเช็คมือถือทุกห้านาที กลุ่มตลาดพฤติกรรม บอกวิธีการเข้าถึงผู้ที่เปิดรับนวัตกรรมเทคโนโลยีด้วยชีวิตคล่องตัว หรือผู้ที่ชื่นชอบการสะสมประสบการณ์ท่องเที่ยวมาสร้างแคมเปญเพื่อชีวิตที่ดี
Target market ตัวอย่างการทำด้วย Data
ในโลกยุคใหม่ Big Data มีบทบาทสำคัญ การใช้ Big Data ในการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายถือเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การตลาดเป้าหมาย บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Zara แบรนด์แฟชั่นชื่อดัง ประสบความสำเร็จด้วยการนำข้อมูลการขายและปฏิสัมพันธ์ลูกค้าออนไลน์มาวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม Big Data ไม่ใช่เครื่องมือเดียวที่จะทำให้การตลาดของคุณประสบความสำเร็จ บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ อย่าง Netflix และ Nike ก็มีกลยุทธ์การตลาดที่โดดเด่นและแตกต่างเช่นกัน
![image 9](https://sixtygram.com/wp-content/uploads/2024/03/image-9.png)
ยกตัวอย่าง Netflix ใช้กลยุทธ์การสร้างและแชร์เนื้อหาผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งไม่เพียงดึงดูดกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลเท่านั้น แต่ยังสร้างการรับรู้และความภักดีต่อแบรนด์อย่างมหาศาล ในขณะที่ Nike กลับใช้การวิเคราะห์วัฒนธรรมและตลาดท้องถิ่น เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์และแคมเปญการตลาดสำหรับนักวิ่งสาวในเอเชีย โดยเน้นการเข้าใจและตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง การนำเทคนิคต่างๆ มาผสมผสานกันอย่างลงตัว จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ นำไปสู่การสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล
Target Marketing และ Mass Marketing แตกต่างกันอย่างไร?
Mass Marketing หรือการตลาดมวลรวม คือ กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการสื่อสารและจัดจำหน่ายสินค้าหรือบริการในแนวทางเดียวกันไปยังกลุ่มลูกค้ากว้างๆ โดยไม่ได้เจาะจงหรือแบ่งแยกตลาดเป็นกลุ่มย่อย ซึ่งการตลาดแบบ Mass Marketing จะตรงข้ามกับแนวคิดของ Target Marketing หรือการตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมุ่งเน้นการแบ่งส่วนตลาดและเลือกกลุ่มลูกค้าเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละกลุ่ม โดยในการทำการตลาดนั้นเราสามารถนำ Mass Marketing มาเปรียบเทียบเพื่อวิเคราะห์ความแตกต่างและความสำคัญของ Target Market ได้เป็น 3 หัวข้อหลัก ดังนี้
1. Mass Marketing มักใช้งบประมาณการตลาดสูงเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ากว้าง แต่ Target Market เจาะกลุ่มเป้าหมายช่วยลดต้นทุนและใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. Mass Marketing ไม่สามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง แต่ Target Market ทำให้สามารถออกแบบสินค้า/บริการและกิจกรรมทางการตลาดให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเฉพาะได้มากขึ้น
3. Mass Marketing มักไม่สร้างความแตกต่างหรือความโดดเด่นที่ชัดเจน แต่ Target Market จะช่วยสร้างจุดขายและตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและโดดเด่นในสายตาของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ดังนั้น การนำแนวคิดของ Mass Marketing มาเปรียบเทียบ จะทำให้เห็นถึงข้อจำกัดและความสำคัญที่ธุรกิจจำเป็นต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Target Marketing) เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป Target Market สำคัญไหม?
![image 12](https://sixtygram.com/wp-content/uploads/2024/03/image-12.png)
การจะประสบความสำเร็จในการทำ Digital Marketing การทำความเข้าใจกับกลุ่มตลาดเป้าหมายหรือ Target Audience นั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก จากการสำรวจตลาดออนไลน์หลายธุรกิจมักไม่กำหนดกลุ่มเป้าหมายหรือกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่กว้างจนเกินไปทำให้เสียงบประมาณในการลงทุนไปกับการตลาดโดยไม่จำเป็น แม้ว่าขนาดของตลาด (Market Size) จะแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ แต่การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างถูกวิธีจะช่วยให้การกำหนดมูลค่าของตลาดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะทำให้การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากสามารถปรับกิจกรรมทางการตลาดให้ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ยังช่วยลดการสูญเสียทรัพยากรและงบประมาณทางการตลาดที่ไม่จำเป็น เพราะการโฆษณาและกิจกรรมต่างๆ จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยตรง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลัก อีกทั้งยังสร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ในกลุ่มตลาดเป้าหมาย (Target Market) ได้ เนื่องจากธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด