ในปัจจุบัน MarTech ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับสายการตลาดอย่างเรา ตามสถิติข้อมูลของ Google มีการค้นหาคำศัพท์คำว่า martech มากกว่า 10,000 ครั้งต่อเดือน แต่เมื่อพูดถึง MarTech และ Marketing Technology คำต่างๆ อาจมีความหมายได้หลายอย่าง วันนี้ Sixtygram จะพาคุณไปเจาะลึกถึงการตลาดแบบ martech ว่าจริงๆ แล้ว คืออะไร เหตุใดจึงสำคัญ ทำไมถึงกลายเป็นเครื่องมือ (Tool) ที่สำคัญทางการตลาด
MarTech คืออะไร
Martech ย่อมาจาก Marketing Technology เป็นเทคโนโลยีการตลาดรูปแบบหนึ่ง หรือจะอธิบายอย่างง่ายคือ การทำการตลาดออนไลน์รูปแบบหนึ่ง ผ่านระบบแพลตฟอร์ม ซอฟต์แวร์และเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยในการกำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ทางการตลาด เมื่อทีมการตลาดใช้การจัดกลุ่มเทคโนโลยีการตลาดแบบ MarTech ในการการจัดเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การติดตามข้อมูลของลูกค้าหรือข้อมูลของคู่แข่ง โดยขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจของคุณต้องการใช้ MarTech ประเภทไหนเพื่อเพิ่ม Customer Lifetime Value (CLV) และสร้างระบบอัตโนมัติให้กับการทำงานในแต่ละวันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เครื่องมือทางการตลาด MarTech Tools
- Google Analytics
- Parabola.io
- Power BI
- Google Optimize
- Facebook Business Suite
- Leadfeeder.com
- Post Affiliate Pro
- Surveymonkey
- Google Search Console
- Sprout Social
ความสำคัญของการทำตลาดแบบ MarTech
จากในปี 2012 Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2017 ผู้ที่ดำรงตำแหน่ง CMO จะใช้เวลาหมดไปกับเรื่องเทคโนโลยีมากกว่าตำแหน่ง CIO (Chief Information Officer) แม้ว่าการกล่าวอ้างนี้ในตอนแรกจะมีความแตกแยกมาก แต่ช่องว่างในการใช้จ่ายระหว่างฝ่ายต่างๆ เหล่านี้ก็แคบลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากเทคโนโลยีกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในด้านการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินการต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล, การกำหนดค่าใช้จ่าย, เทรนด์การใช้ VR/AR, การทำ Big Data Platforms
นอกจากนี้ MarTech ยังมีความจำเป็นในการดำเนินงานตั้งแต่ต้นจนจบ ช่วยให้นักการตลาดสามารถขยายความพยายามทางการตลาดแบบองค์รวม สุดท้ายนี้ MarTech เป็นรูปแบบกลยุทธ์ทางการตลาดที่สุดยอดมาก เนื่องจากจะช่วยปรับปรุงวิธีที่เราสื่อสาร หรือช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างการตลาดแบบ B2B และ B2C ซึ่งการตลาดแบบ MarTech เหล่านี้ส่งผลเชิงบวกต่อความสัมพันธ์ที่คุณสร้างกับลูกค้าของคุณด้วย
ประเภทของ MarTech
เราสามารถแบ่งประเภทของ MarTech ได้หลายหมวดหมู่ซึ่งในปัจจุบัน Marketing Technology ทั่วโลกมีมากกว่า 8,000 Tech เช่น จัดตามเงื่อนไขการตลาด จัดตาม MarTech Map จัดตามรูปแบบการใช้งาน
- การจัดการ (Management) การจัดการเป็นหนึ่งในประเภทเครื่องมือ MarTech ซึ่งรวมถึงการจัดการเนื้อหา องค์กรผู้ขาย การจัดการผลิตภัณฑ์ การจัดทำงบประมาณ และการจัดการผู้มีความสามารถ การเพิ่มประสิทธิภาพความต้องการทางธุรกิจในด้านเหล่านี้คือตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับกลยุทธ์การตลาดที่เหลือ การใช้ระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพช่วยให้มั่นใจได้ว่าองค์กรสามารถดึงเอกสารทางการตลาดได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ให้คำแนะนำที่รอบคอบ และรักษาความถูกต้องแม่นยำในการรายงาน
- การเพิ่มประสิทธิภาพทางสังคม (Social optimization) การจัดระเบียบและการวัดผลกลยุทธ์ทางโซเชียลมีเดียอาจรวมถึงการจัดการในด้านอินฟลูเอนเซอร์ ผ่านคอนเทนต์ที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (UGC), การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และอื่นๆ ที่จะช่วยให้ระบบกลยุทธ์ในการการเพิ่มประสิทธิภาพทางสังคม ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับสังคมออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การเข้าถึงแคมเปญ (Campaign reach) จากความรู้ในด้าน E-commerce บอกได้เลยว่า MarTech ประเภทนี้ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้มากขึ้น เป็นการช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง Business-to-business (B2B) และในรูปแบบ Business-to-consumer (B2C) และสร้างฐานลูกค้าใหม่
- การศึกษาข้อมูลเชิงลึก (Insight generation) คือ การวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ ช่วยให้นักการตลาดสามารถเข้าใจแคมเปญ เข้าใจการตลาดทำคอนเทนต์ และเพิ่มประสิทธิภาพของโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือที่อยู่ในหมวดหมู่นี้ เช่น Campaign, Content Marketing, Social Media Performance, Email Marketing
นวัตกรรมที่สำคัญสำหรับ MarTech ในปี 2024
MarTech มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการตลาดแบบหลายช่องทาง การพัฒนาเหล่านี้ได้ปรับปรุงกระบวนการเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างขึ้นผ่านแพลตฟอร์มและช่องทางต่างๆ โดยการพัฒนาเครื่องมือ AI เช่น ChatGPT และ ChatSpot ของ HubSpot ได้ปฏิวัติแนวทางปฏิบัติทางการตลาด เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพการรวบรวมข้อมูล กระบวนการตัดสินใจ การสร้างเนื้อหา และการวิจัยตลาด ด้วย AI นักการตลาดสามารถวิเคราะห์ชุดข้อมูลที่ครอบคลุมได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อระบุแนวโน้มและเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การตลาด ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในท้ายที่สุด
นอกจากนี้ อัลกอริธึมสามารถสร้างการเรียนรู้ได้โดยอัตโนมัติ เช่น การทดสอบ A/B และการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหา ช่วยให้นักการตลาดมุ่งเน้นไปที่การริเริ่มเชิงกลยุทธ์ในระดับที่สูงขึ้นและความพยายามเชิงสร้างสรรค์
