ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน การสร้างอัตลักษณ์ที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจที่จะโดดเด่นและประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามการที่แบรนด์หรือธุรกิจของคุณจะประสบความสำเร็จได้จำเป็นต้องมีการพัฒนาอัตลักษณ์ขององค์กรหรือแบรนด์ (CI) อย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อพูดถึง McDonald’s คุณก็จะนึกถึงสัญลักษณ์ตัว M สีเหลืองขึ้นมาเลยทันที นี้แหละความสำคัญของ CI Brand
CI Brand คืออะไร
Corporate Identity หรือ Brand Identity หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ci คือ การนำเสนอแบรนด์ของคุณด้วยภาพและแนวคิดขององค์กร ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ เช่น โลโก้ โทนสี สื่อสิ่งพิมพ์ รูปภาพ และองค์ประกอบการออกแบบอื่นๆ ที่สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ร่วมกัน CI เป็นมากกว่าแค่ด้านภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงค่านิยม ภารกิจ วัฒนธรรม และรูปแบบการสื่อสารของบริษัทด้วย
ตัวอย่างการสร้างอัตลักษณ์แบรนด์
ความสำคัญของ CI
บอกได้เลยว่า brand ci มีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปแบบการสร้างรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ของกลุ่มเป้าหมาย การมีเอกลักษณ์องค์กรที่ชัดเจนจะช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ สร้างความไว้วางใจกับลูกค้า และทำให้บริษัทแตกต่างจากคู่แข่ง ช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารุมั่นใจได้ว่าช่องทางการสื่อสารทั้งหมด รวมถึงการตลาดด้านเว็บไซต์ การแสดงตัวตนบนโซเชียลมีเดีย และสินค้าทั้งหมดของคุณ เช่น บรรจุภัณฑ์และป้าย สอดคล้องกับอัตลักษณ์และข้อความของแบรนด์
องค์ประกอบของ CI Brand
1. โลโก้ (LOGO)
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างอัตลักษณ์องค์กรคือ การสร้างโลโก้ที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำ จัดได้ว่าเป็นองค์ประกอบขั้นพื้นฐานเลย คุณอาจจะเริ่มจากการลิสจุดเด่นของแบรนด์คุณ สีที่คุณชอบ ความหมายที่คุณอยากสื่อสารผ่านโลโก้ของคุณที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของบริษัท ในปัจจุบันหากคุณกำลังเริ่มต้นสร้างแบรนด์คุณอาจลองใช้ AI ช่วยสร้างโลโก้ได้ หรือนำมาเป็นไอเดียในการต่อยอดเอกลักษณ์ของแบรนด์ หรือจะจ้างกราฟอกให้ช่วยออกแบบโลโก้ก็ได้เช่นกัน
2. โทนสี (Color Palette)
นอกจากโลโก้เเล้ว สี ci โทนสีก็มีส่วนสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นที่จดจำ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณนึกถึง Kerry คุณก็จะนึกถึงสีส้มขึ้นมาทันที หรือเมื่อคุณนึกถึง Flash คุณก็จะถึงนึกสีเหลือง ดังนั้นจึงควรเลือกใช้สีที่บ่งบอกถึงธุรกิจเรา โดยอาจเลือกจากความหมายหรืออารมณ์ที่สื่อออกมาผ่านสีให้โดดเด่นและสื่อความหมายเพื่อเอาชนะคู่แข่ง และสร้างแบรนด์คุณให้มีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น หรือจะเรียกได้ว่าเป็นการตั้งค่า Mood and Tone ของแบรนด์ก็ว่าได้
3. ตัวอักษรหรือฟอนต์ (Typography)
การเลือกฟอนต์หรือแบบอักษรอิสระในการทำ Artwork ต่างๆ ก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้าง CI เนื่องจาก หากคุณเลือกใช้ฟอนต์ให้เป็นไปตามธุรกิจของคุณ ก็ย่อมจะทำให้ผู้คนจดจำแบรนด์ของคุณได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องอ่านง่ายเพื่อความเป็นมิตรต่อผู้พบเห็นแบรนด์ อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกที่เฉพาะเจาะจงผ่านข้อความได้ โดยคุณสามารถหาแบบอักษรอิสระ สวยๆ เท่ๆ ได้ฟรี จากเว็บดังเช่น f0nt.com
4. องค์ประกอบภาพ (Visual Elements)
ไม่ว่าจะเป็นในส่วนการออกแบบของกราฟิก สไตล์การตกแต่งภาพ ก็มีผลต่อการออกแบบ CI เช่น หากคุณเคยเห็นคอนเทนต์ของ BMW ผ่านโซเชียลหรือ Ads ต่างๆ คุณอาจลองสังเกตได้เลยว่า ฟอนต์ที่ใช้ ตำแหน่งตัวอักษรที่วาง จะไม่เปลี่ยนไปเลยเพราะการยึด ci branding ตั้งแต่เริ่มสร้างแบรนด์ จะทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ
นอกเหนือจากองค์ประกอบหลักที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว อัตลักษณ์องค์กร (CI) ยังครอบคลุมแง่มุมอื่นๆ อีกหลายส่วนที่มีส่วนช่วยกำหนดการรับรู้และภาพลักษณ์โดยรวมของบริษัท ดังนั้นเอกลักษณ์องค์กร (CI) คือการนำเสนอด้วยภาพและแนวคิดของบริษัทหรือองค์กร ครอบคลุมองค์ประกอบต่างๆ เช่น โลโก้ โทนสี แบบอักษร และคุณค่าของแบรนด์ นอกเหนือจากการมองเห็นแล้ว ยังรวมถึงพันธกิจ วิสัยทัศน์ เสียงของแบรนด์ และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งทั้งหมดนี้กำหนดเอกลักษณ์และการรับรู้ของแบรนด์ในตลาด นอกจากนี้ CI ยังขยายไปถึงแง่มุมภายใน เช่น วัฒนธรรมองค์กรและการสร้างแบรนด์ของพนักงาน ตลอดจนปัจจัยภายนอก เช่น การมีส่วนร่วมของชุมชน และความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการสร้างสรรค์และรักษา CI ที่สอดคล้องกันอย่างรอบคอบ บริษัทต่างๆ สามารถสร้างการจดจำแบรนด์ สร้างความไว้วางใจกับลูกค้า และสร้างความแตกต่างให้กับตนเองในสภาพแวดล้อมการแข่งขัน
